ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ ลูกเห็นชัดขึ้นแล้วว่า สิ่งที่หลวงตาพยายามบอกพยายามสอนศิษย์ทุกคนคืออะไร
ลูกเห็นแล้วว่ามันมีแต่ขันธ์ห้า ทั้งหมดเลยที่เกิดขึ้นเปลี่ยนหน้าเข้ามา ทุกอย่างที่เข้ามาหรือเกิดขึ้นมาให้รับรู้ได้มันเป็นขันธ์ห้า ทั้งหมด แม้แต่ผู้ไปคอยสังเกต ผู้ไปคอยรู้ ผู้ไปคอยเข้าใจ หรือแม้แต่ สติ สมาธิ ปัญญา หรือ ผู้รู้ หรือกระทั่งผู้ปล่อยวางก็ล้วนเป็นขันธ์ห้า ทั้งสิ้น แต่ต้องอาศัยสติ สมาธิ ปัญญามาเรียนรู้ให้เข้าใจการทำงานของธรรมชาติของร่างกายจิตใจนี้ และเข้าใจที่หลวงตาสอนว่าธาตุรู้มันทำอะไรไม่ได้เลย ไม่สามารถถูกรู้ได้ ไม่ปรากฏอาการ ตัวมันทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่รู้เท่านั้น เมื่อมีสิ่งปรากฏให้รับรู้ก็ได้แต่รู้ และหายไปอย่างไร้ร่องรอย ส่วนอาการที่มีการขยับตัวเคลื่อนไหวใด ๆ ต่อการรับรู้นั้น มันไม่ใช่ธาตุรู้ แต่คือขันธ์ห้าที่ทำงานไปตามธรรมชาติของมัน
หน้าที่ของลูกต่อไปก็คือ ใช้สติ สมาธิ ในขันธ์ห้าที่ฝึกมาเพื่อเรียนรู้ให้เข้าใจและเมื่อเข้าใจก็จะค่อย ๆ วางความยึดมั่นถือมั่นในรูปนามกายใจนี้ไปได้
อันนี้เป็นความเข้าใจของลูกในตอนนี้ หากมีสิ่งใดที่เห็นผิดไปจากความเป็นจริง กราบขอความเมตตาหลวงตาชี้บอกทางให้ลูกด้วย และลูกขอกราบระลึกบูชาในพระคุณและความเมตตาอันไม่มีประมาณของหลวงตาเจ้าค่ะ และกราบขอขมาโทษที่รบกวนธาตุขันธ์หลวงตาและจะเดินทางตามทางที่หลวงตาชี้ทางบอกสอนต่อไปกราบหลวงตาเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560