ผู้ถาม : ส่งการบ้านของเมื่อคืนเจ้าค่ะ กลับจากคลินิกมันง่วงมากเจ้าค่ะ แต่ก็พยายามฝืนกันเวลาเอาไว้ภาวนาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อน เดินก็ปวดขา นั่งหลับตาก็ง่วง เลยเอาสร้อยลูกประคำมานั่งนับแทนการเดินเคลื่อนไหว รู้สึกสัมผัสมือเลื่อนสร้อยไปเรื่อย ๆ มันสงบ ไม่คิดอะไร สักพักเหมือนมันถูกดูดวูบไป บรรยากาศรอบข้างกลายเป็นป่าช้า มีแต่ความมืด หลุมศพ เสียงนกแสกร้อง มีแต่ความตาย ตอนแรกสติหลุดเลยเจ้าค่ะ ความคิดปรุงแต่งเข้าแทรกว่าตัวเราเป็นอะไร ทำไมมาอยู่ตรงนี้ เลยถอนออกมารู้สึกตัวที่นับลูกประคำใหม่ สักพักสงบใหม่ก็เข้าไปพิจารณาในป่าช้า มันเงียบ สงบ รู้สึกเหมือนเป็นสิ่งที่ตัวเราเองคุ้นเคย เหมือนเคยมานั่งกลางป่าช้าแบบนี้ เคยพิจารณาแบบนี้มาแล้วจริง ๆ สักพักก็มีศพเลื่อนมาให้ดู เป็นศพเน่าโดนหมาป่ากับกาจิกกินบ้าง ภาพโครงกระดูกโดนคุ้ยเขี่ยบ้าง แต่เห็นแล้วก็ไม่ละเอียดเท่าไหร่
แต่ศพที่ติดตาติดใจมาก คือ ศพผู้หญิงที่โดนเชือกแขวนกลางลำตัวห้อยไว้ แล้วเรามองพิจารณาจากด้านล่าง เห็นตรงท้องเนื้อเน่าเฟะ ร่วงหล่น มีลำไส้สด ๆ อยู่ภายใน ภาพในความรู้สึกมันชัดมาก นิ้วแตะลำไส้ยังหยุ่น ๆ มัน ๆ อยู่เลย จึงขยายภาพออก และเดินเข้าไปสำรวจในลำไส้นั้น ผ่านอุจจาระ เดินย้อนขึ้นไปเจอเศษอาหารเก่า อาหารใหม่ อยู่ในนั้นสักพัก ก็ถอนออกเจ้าค่ะ ถึงตอนนี้ลูกอยากขอคำแนะนำหลวงตาว่า การที่นิมิตมันมาเป็นแบบนี้ คือ เราพิจารณาไปตาม flow ของนิมิตนั้นได้เลยไหมเจ้าคะ มันสมจริงมาก แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนพิจารณาศพทั่ว ๆ ไป ยังไม่ได้น้อมเห็นเป็นตัวเอง หรือควรจะถอนออกจากนิมิตอันนี้ มาพิจารณาแยกธาตุของตัวเราเองใหม่ หรือควรจะพิจารณาศพไปตามนิมิตจนชัดเจน แล้วค่อยน้อมเข้าหาตัวว่าตัวเราก็เป็นเช่นนี้
เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ลำไส้ที่เห็นมันสด ใหม่ มันวาว สมจริง เพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นสุภะในใจตัวเอง เห็นมันสวย ชอบ มันเลยชัด และสำรวจลึกเข้าไป ๆ มันยิ่งชัดขึ้น ๆ สว่างขึ้น ๆ ในขณะที่ส่วนอื่นของร่างกายดำเน่าไปหมดแล้ว เมื่อจิตรู้ตัว มันย้อนเข้าหาตัวเองว่า ตัวเรายึด ตัวเรายังมีสุภะอยู่ พอมันรู้ตัว มันจึงถอนออกจากสิ่งนั้น ภาพที่สว่าง เริ่มมืด ลำไส้เริ่มเหี่ยวดำแล้ว ที่แท้ ทุกสิ่งที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นรูป นาม คือ ภาพที่สะท้อนออกจากใจเรา นี่เอง มิน่าเล่า รู้ธรรมเห็นธรรมขนาดไหน มันก็ไปต่อไม่ได้ เพราะจิตตัวเองมีสุภะกับธรรมที่เห็น แล้วมันไม่รู้ตัว ไม่เห็นตรงนี้เลย จึงต้องมาพิจารณารูปเพื่อให้เข้าถึง “ตัวเราผู้ยึดถือ” ใช่ไหมเจ้าคะ
หลวงตา : สาธุ ให้มีสติ น้อมพิจารณาที่เห็นอสุภะและมรณานุสสติมาให้ละเอียดต่อเนื่องไม่ขาดสาย เห็นแล้วอย่าถอนขึ้นมา เพียร เห็นให้มาก ๆๆๆ… ให้ต่อเนื่อง จะแจ้งประจักษ์แก่ใจจริง ๆ แล้วจะสิ้นสงสัย
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561