ผู้ถาม : วันนี้ไปสนทนาธรรม กับคนที่เคยปฏิบัติด้วยกันมาก่อน โดนเขาชี้สภาวะหน่อยเดียว มันมีตัวตน มีความอยาก ความยึดถือนิพพานและการภาวนาขึ้นมาอีก มันยึดเหลือเกินเจ้าค่ะ เอามาอยู่ในใจตลอด มีตัวเราที่ปฏิบัติวนไปวนมา ทุกข์มาก สลัดไม่ออกเลย กลับไปมวยวัด จนหมดแรง จะให้มันสิ้นยึดถือให้ได้ จะไม่เอาแบบนี้ ... โอย... ทุกข์หลายเจ้าค่ะ จนสุดๆ แล้ว มันก็น้อมพิจารณาไปเอง ว่ามันจะอยาก จะยึด จะสิ้นอยาก จะสิ้นยึด จะมีปัญญา จะอะไรๆ สุดท้ายทุกสิ่งที่มันอยาก มันยึด มันเห็น มันหลง มันรู้ มันต้องดับหมด ไม่มีอะไรเหลือ ไม่ว่ามันจะมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นอะไร รู้ธรรมเห็นธรรมแค่ไหน มันจะรู้ธรรมจริงธรรมปลอม สุดท้ายมันต้องดับ ต้องสิ้นไปทั้งหมด จิตมันค่อยๆ สงบ รวมลง และปล่อยสิ่งที่ยึดออกจากใจ มันจึงเห็นว่า ที่แท้แล้ว มันก็ไม่มีใครได้อะไร หรือเป็นอะไร แค่เห็นความจริง ในทุกขณะปัจจุบัน เท่านั้นเอง แล้วการเห็นความจริง ก็ไม่ต้องทำอะไรใช่ไหมเจ้าคะ แค่ลืมตาตื่น ขณะใดที่มันไม่ได้ปรุงแต่งว่าตัวเราได้ตัวเรามี ตัวเราเป็นอะไร ขณะนั้น ความจริงของสังขาร ว่ามันเป็นแค่สังขารไม่มีตัวเราอยู่ มันแค่ของเกิดดับ ตั้งอยู่ไม่ได้ มันก็ปรากฏตรงหน้าอยู่แล้วเจ้าค่ะ
หลวงตา : เป็นมวยวัด โดนกิเลสต่อยๆ หนักบ่อยๆ จะได้เก่ง..เก่งๆๆๆ
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2561