ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาเหนือเศียรเกล้าครับ เมื่อคืนศิษย์ตื่นมากลางดึก จึงขึ้นมานั่งทบทวนไฟล์เสียงที่หลวงตาส่งมาให้ฟังครับ สักพักก็เหมือนมีเสียงหลวงตาขึ้นมาครับ “จะดิ้นรน ค้นหา ไปอยากมี อยากได้ อยากเป็นทำไมเล่า ในเมื่อสิ่งนั้น มันก็อยู่แค่ใต้ตาของเจ้าเอง” แค่นั้นเองครับ เหมือนอยู่ ๆ มันก็สงบ สงัด เงียบ ไม่มีอะไรเลยครับ แล้วมันก็เห็นมีความเคลื่อนไหว ความคิดต่าง ๆ ผู้พากษ์เกิดขึ้น จากในความสงบเงียบแบบนั้น เป็นอย่างนี้สักพักครับ แต่ที่สำคัญคือ ศิษย์ไม่เห็นว่ามีเราอยู่ตรงไหนเลยครับ ทั้งในความสงบสงัดนั้น ทั้งในความเคลื่อนไหวเกิดดับนั้น ไม่มีเลยครับ มันเหมือนมีแค่รู้ครับ รู้ว่า ความเงียบสงัดนั้น ก็มีอยู่ ไม่มีใครในนั้น ความเกิดดับก็มีอยู่ ไม่มีใครเป็นเจ้าของมันครับ มันรู้อย่างนั้นของมันเองจริง ๆ ครับ ไม่ได้ต้องไปทำ ไม่ต้องพยายามให้รู้ด้วยครับ เหมือนคำที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนเลยครับ ไม่มีเรา ก็จะไม่มีของเรา ไม่มีของเรา ก็จะไม่มีตัวตนของเรา เป็นขั้นเป็นตอนเลยครับ เชื้อที่ยังทำให้ไฟยังติดอยู่ มันคือเรานี่เอง ใช่ไหมครับ สิ้นเราอย่างสิ้นเชิง ก็สิ้นเชื้อไฟอย่างถาวร แล้วจริง ๆ ก็ต้องถามต่ออีกว่า กล้าไหม ที่จะวางแม้กระทั่งนิพพาน สิ่งที่เป็นเป้าหมายสูงสุดครับ ศิษย์จะเพียรต่อไปครับ หลวงตา จนกว่าจะสิ้นเชื้อไฟอย่างสิ้นเชิง กราบเท้าหลวงตา กราบขอบพระคุณหลวงตา ที่ทำให้เห็นถึงความจริงนี้ครับ ขอปฏิบัติถวายเป็นพุทธบูชา อาจาริยบูชา ขอให้ธาตุขันธ์หลวงตาแข็งแรงครับ
หลวงตา : ไม่มีผู้ที่จะต้องไปกระทำอะไรอีกแล้ว
“เพียงแค่รู้” เท่านั้น ไม่มีใครอยู่ในอารมณ์หรือสิ่งที่ถูกรู้หรือสภาวะที่ถูกรู้
และไม่มีใครหรือไม่มีเรา หรือตัวเราอยู่ในรู้
เมื่อไม่มีตัวเรา จึงไม่มีของเรา
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2561