ผู้ถาม : ปกติโยมจะชอบสวดมนต์ ใช้การสวดมนต์เป็นตัวล่อให้เข้าถึงผู้รู้ได้หรือไม่คะ
หลวงตา : ได้ ได้ เห็นผู้สวดมนต์พูด พากษ์ และปล่อยวางผู้รู้ กับผู้พูด พากษ์
ผู้ถาม : ผู้พูด ผู้พากษ์ เป็นคนละอันกับผู้รู้ ใช่หรือไม่คะ
หลวงตา : การปฏิบัติต้องเห็น “ผู้รู้ตัวปลอม” (จิต หรือ วิญญาณขันธ์) ที่ทำหน้าที่รู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ แล้วพูด พากษ์ทุกปัจจุบันขณะที่มีการกระทบ เพราะมีเจตสิก คือ เวทนา สัญญา และสังขารประกอบจิตหรือวิญญาณที่เกิดมารู้ในปัจจุบันขณะทุกดวง แล้วดับไปเร็วมาก
ดังนั้น จิตหรือวิญญาณจึงเกิดดับเร็วมากเป็นปรมาณู จึงไม่มีจิตหรือวิญญาณดวงเดียวที่ไม่เกิดดับ แต่แม้จิตหรือวิญญาณจะเกิดดับรวดเร็วปานใด หากไม่มีผู้หลงยึดถือ (อวิชชา) ในขณะจิตใด ก็จะสามารถสังเกตเห็นจิตหรือวิญญาณเกิดดับในความไม่เกิดดับ ซึ่งมีชื่อสมมติมากหลาย เช่น วิสังขาร อสังขตธาตุ อสังขตธรรม ใจหรือจิตเดิมแท้ หรือ ธรรมธาตุ หรือ พุทธะ ...ฯลฯ
เมื่อสิ้นผู้ยึดถือสังขาร คือ สิ่งปรุงแต่ง เกิดดับ และ
สิ้นผู้ยึดถือ ใจหรือวิสังขาร
ไม่มีผู้ยึดถือธรรมอันเป็นที่พึ่งที่อาศัย และ
ไม่มีผู้ยึดถือแม้นิพพาน
ก็ไม่มีผู้ทุกข์ (นิพพาน)
ผู้ถาม : สาธุ กราบขอบพระคุณค่ะ หลวงตา
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2561