ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาและกราบขอโอกาสเจ้าค่ะ หนูรู้สึกว่าในการปฏิบัติทุกขั้นตอนของความเข้าใจนั้น จะมีอวิชชาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเข้าใจธรรมละเอียดขึ้นเท่าใด ก็รู้สึกว่าอวิชชาละเอียดขึ้นเท่านั้น หนูคิดว่าที่อยู่ของอวิชชาคือความรู้สึกว่ามีตัวเรา และเราก็เลยไปหลงหมายเอาสิ่งต่าง ๆ ละเอียดขึ้นไปตามที่ปัญญาไปรู้เห็นมา และก็หลงทำตามมัน ถึงเราจะเข้าใจว่าให้รู้ซื่อ ๆ ตามที่หลวงตาสอน ถ้าหากยังเข้าใจไม่ชัดเจนจริง ๆ ก็อาจจะมีเราหลงไปพยายามทำรู้ซื่อ ๆ อีกนะเจ้าคะ หนูคิดเอาเองว่าตัวเราและอวิชชามันก็เป็นของคู่กันอีก แต่เป็นของคู่ที่เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน ไม่เหมือนของคู่อื่นที่สลับหน้ากันเกิดเจ้าค่ะ
มาถึงตอนนี้ ก็มีเราเป็นอวิชชาขึ้นมาทันทีว่า แล้วของคู่นี้เราจะทำอย่างไรกับมัน ก็แค่รู้ไปว่ามีการกระทำนี้เกิดขึ้น ตามอุปนิสัยที่จะต้องเข้าไปทำอะไรกับอะไร ก็ได้แต่ … แค่รู้ ..... ไม่หลงไปทำตามมันเจ้าค่ะ ตรงนี้หนูรู้สึกว่าต้องอาศัยความสังเกตด้วยสมาธิและสติ คอยเตือนควบคู่กับปัญญาความเข้าใจ ในปัจจุบันนั้น ๆ ไปเรื่อยอย่างนี้เจ้าค่ะ กราบเรียนหลวงตาด้วยความเคารพเจ้าค่ะ
หลวงตา : ความรู้สึกว่าเราหรือตัวเรานั่นแหละ มันเป็น “อวิชชา” มันเป็นสิ่งเดียวกัน ไม่ใช่ของคู่
***** และที่บอกว่า “ของคู่นี้ เราจะทำอย่างไรกับมัน” โดนต้มหรือโดนหลอกซึ่ง ๆ หน้าเลย เพราะในปัจจุบันทันทีที่ มีความคิดหรือความรู้สึกว่า “เรา” จะไปทำอะไรกับของคู่ มันเป็นอวิชชาทันทีที่เกิดความคิดหรือความรู้สึก เป็นเรา ตัวเรา หรือของเราขึ้นมา
ตราบใดถ้ายังมีความรู้สึกหรือความคิดว่า ทำอย่างไร เราหรือตัวเราจะสิ้น “อวิชชา”
หรือ ทำอย่างไรตัวเราจึงจะบรรลุธรรมหรือบรรลุนิพพาน ก็จะเป็น “อวิชชา” … ๆๆๆๆๆๆ ...... เรื่อยไป ๆๆๆๆๆๆ ......
ผู้ถาม : กราบหลวงตา ใช่เลยเจ้าค่ะ เพราะเห็นว่ามีตัวเรากับอวิชชา แทนที่จะเห็นตัวเราเป็นอวิชชา คือยังเห็นว่ามีตัวเราอยู่ และแยกอวิชชาออกไปจากตัวเรา มันมีตัวเราคาอยู่เลยเจ้าค่ะ ก็เห็นมันอยู่เจ้าค่ะ ตอนที่แวบแรกก็คิดอย่างนั้น แล้วก็รู้สึกว่า โดนหลอกอย่างที่หลวงตาบอกเจ้าค่ะ เลยเห็นว่า ต้องมีสติประกอบปัญญาอยู่เสมอเจ้าค่ะ เพราะมีปัญญานำสติไป อวิชชาขโมยเอาไปใช้หมดเลยเจ้าค่ะ แต่ว่าก็ยังมีตัวเราโดนหลอกใช่ไหมเจ้าคะ
หลวงตา : ที่มีความเห็นว่า “ต้องมีสติประกอบปัญญาอยู่เสมอ”
***** แสดงว่ายังโดน “อวิชชา” หลอกต้ม เพราะหลงมีเราหรือตัวเรา ที่ต้องพยายามมีสติเพื่อให้ตัวเราไม่มีอวิชชา
ผู้ถาม : กราบขอบพระคุณหลวงตาที่เมตตาเตะตัดขาเจ้าค่ะ ล้มทั้งยืนเลย เหมือนพบชายในอินเตอร์เน็ตเจ้าค่ะ หลวงตาเจ้าคะ "ความเห็นที่ต้องมีสติเพื่อรักษาตัวเรา" ความเห็นตัวนี้ เป็นอวิชชา แต่สติก็นำมาใช้ มันจะมีสติขึ้นมาหรือไม่ มันก็มีขึ้นมาตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่เราเป็นผู้มีสติใช่ไหมเจ้าคะ
หลวงตา : จะเอาความเข้าใจนี้ ก็มี “อวิชชา” เป็นเบื้องหลัง
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2561