ผู้ถาม : กราบนมัสการองค์หลวงตาที่เคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ เมื่อวานองค์หลวงตาได้กรุณาตอบคำถามธรรม 4 ข้อให้แก่หนู กราบขอบพระคุณอย่างสูงเจ้าค่ะ สรุปคือองค์หลวงตาให้หนูปล่อยวางผู้รู้สึกตัวนั้นเสียเพราะมันเป็นสังขารปรุงแต่ง หนูเข้าใจเจ้าค่ะ ว่าถ้าเราเอา "ใจ" หรือ "รู้" หรือ "วิสังขาร" ซึ่งเปรียบเสมือนฟ้านั้นมองดูขันธ์ 5 นี้ ให้เขาสังขารไปตามเหตุตามปัจจัยตามธรรมชาติ โดยที่รู้นี้จะรู้ทุกอย่างที่ขันธ์ 5 สังขาร หนูลองทำดูตั้งแต่ได้คำตอบจากองค์หลวงตามันเกิดความรู้สึกว่าตัวเรานี้ก็เหมือนกับสรรพสิ่งทั้งหลายที่มีชีวิตอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ ทุกชีวิตก็สังขารไปตามธรรมชาติตามเหตุตามปัจจัยของใครของมันใช่ไหมเจ้าคะ เมื่อหนูลองทำแบบนี้ก็รู้สึกโล่ง ๆ เบา ๆ ดีเจ้าค่ะ แต่ถ้าลองกลับมาดูความรู้สึกตัวอีกครั้งจึงเกิดข้อเปรียบเทียบว่าถ้าอยู่กับความรู้สึกตัวมันจะรู้สึกหนัก ๆ เหมือนกลับมาอยู่ใกล้ ๆ ตัวเองอีก ซึ่งต่างจากการเอารู้มองดูขันธ์ 5 สังขารเจ้าค่ะ … ข้อความใดที่ไม่เหมาะไม่ควรหนูกราบขอขมาองค์หลวงตามา ณ ที่นี้นะเจ้าคะ จึงเรียนองค์หลวงตาเพื่อขอคำชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ กราบสาธุเจ้าค่ะ
หลวงตา : เอาเราเป็นท้องฟ้ามาสักแต่ว่ารู้ขันธ์ห้า ก็ไม่ถูก เพราะการที่พยายามจะเอาตัวเราเป็นท้องฟ้า พยายามไม่ยึดถือขันธ์ห้า แต่ก็เท่ากับยังหลงยึดถือว่ามีตัวเราซึ่งเป็นขันธ์ห้าเป็นท้องฟ้าที่ว่างเปล่า และหลงเอาขันธ์ห้าเป็นผู้รู้ด้วย
อีกทั้ง แอบเอาขันธ์ห้ามาพึงพอใจผลงาน ที่รู้สึกเบาสบายมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งความรู้สึกเบาสบายก็เป็นเวทนาขันธ์ จึงยังมีอุปาทานขันธ์ห้าอยู่
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2561