ผู้ถาม : หลวงตาเจ้าคะ ลูกสังเกตว่า เมื่อหลงไปเป็นเวลานาน คือ ขาดสติ ดำเนินชีวิตไปโดยเอาตัวเรา เข้าไปทำสิ่งต่าง ๆ สักพัก (สำหรับลูกคือการทำงาน เอาตัวเราเข้าไปเป็นคนดูแลคนไข้ มีตัวตนจมเข้าไปในงานเจ้าค่ะ) เมื่อมีสติกลับมาอีกที มันจะไม่สามารถเห็นผู้รู้ปลอมได้แล้ว แต่มันจะได้แค่เพียง หลงไปกับความคิด แล้วก็รู้สึกตัว สักพักก็ฟุ้งซ่านเข้าไปจริงจังกับความคิด แล้วก็รู้สึกตัว เพียงเท่านั้น พอแบบนี้ สติปัญญา มันเข้าใจ ว่ามันไม่สงบ มันเข้าไม่ถึงฐาน ขันธ์หยาบ บังขันธ์ละเอียด สิ่งที่มันทำ คือ อยู่เงียบ ๆ พิจารณาความจริงใหม่ เริ่มจากสิ่งภายนอกเลยว่า ไม่เที่ยง รถรา ตึก ก็เห็นแต่ความเก่า ความเสื่อม น้อมเข้าสู่ภายในอย่างหยาบคือ กายหยาบ สู่ลมหายใจ ช่องรูจมูกที่ลมผ่าน ว่ามีแต่เนื้อเยื่ออันสกปรก เสื่อมทรามไปเรื่อย ใช้เวลาไม่นานมาก ใจก็เข้าสู่สภาวะปกติ คือ เห็นผู้รู้ปลอม เคลื่อนไหวเกิดดับตลอดเวลา โดยไม่มีคนไปยึดถือเจ้าค่ะ เลยแจ้งชัดมากขึ้น ถึงแนวทางการปฏิบัติ ว่าอะไรเป็นอะไร ถึงไหน ยังไง แบบนี้เจ้าค่ะ แต่มันมีจุดหนึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อน คือ มันไม่ได้เข้าใจ ว่ามีตัวเราเดินทางจริง ๆ มันเห็นว่าจิตเขาเดินทางแบบนี้ของเขาเอง อันนี้ คือ ข้อแตกต่าง ที่สังเกตได้เจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ เพียรให้ต่อเนื่อง แล้วจะสิ้นสงสัย
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2561