ผู้ถาม : กราบขอโอกาสเจ้าค่ะ ... การบ้านที่ได้ส่งเป็นปัจจุบันธรรมในภาพธรรมวันนี้ เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นอาการเกิดดับของ "จิต" ที่ไวมาก อยู่ในความไม่เกิดดับของ "ใจ" เหมือนไลฟ์สดด้วยกล้องปรมาณูเข้าไป จิตเกิดปรากฏการณ์ "ถึงใจ" มากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ในธรรมที่พิจารณาลงแก่ใจแล้วเจ้าค่ะ
ในความละเอียด ก็ยังมีหยาบ กลาง ละเอียด แม้ที่สุดของความละเอียด ก็ยังมี "ปรมาณู" ที่องค์หลวงตาเมตตาย้ำนักย้ำหนา ... เพื่อเตือนให้มีสติรู้เท่าทัน ... "อย่าทิ้งรู้"
ในความเข้าใจถึงใจที่สุดนั้น ขันธ์ยังทำงานรับรู้ปกติ มีอารมณ์ครบทุกอารมณ์ ดีใจ เสียใจ ซาบซึ้ง ศิษย์เข้าใจและเห็นด้วยใจว่า ... การ "สักแต่ว่ารู้" คือการปล่อยวางทุกอย่างไปในตัว รับรู้ทุกอาการที่กระเพื่อม รับรู้แม้ความหลง ... และไม่มีผู้ไปยึดถือหรือทำอะไรกับมัน ทุกอย่างเกิดแล้วต้องดับไปตามช่วงเวลาเหมาะสมคือเหตุปัจจัยของมัน โดยที่ไม่มีใครต้องเข้าไป "อะไรกับอะไร" เลย ...
กราบขอบพระคุณจากทุกอณูของ "ใจ" ในความเมตตาไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ ที่พ่อแม่ครูอาจารย์มีให้เสมอมาเจ้าค่ะ หากสามารถทำได้ ขอเอากระหม่อมนี้ไว้รองบาทพ่อแม่ครูอาจารย์ ... ขอเป็นผ้าขี้ริ้วให้หลวงตาเมตตาเช็ดเท้าเจ้าค่ะ กราบเท้านมัสการมาด้วยความเคารพสูงสุดเจ้าค่ะ
หลวงตา : แล้วจะเหลืออะไรเพราะรู้ทัน
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561