ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาค่ะ ขอโอกาสส่งการบ้านทางไลน์ค่ะ หลวงตาเมตตาตอบคำถามและบอกโยมว่า โยมยังพยายามเอาตัวเองเป็นผู้ออกจากทุกข์ ไม่มีใครติดอยู่ในอะไร ไม่มีใครติดอยู่ในทุกข์ เมื่อโยมกลับมาพิจารณา โยมเห็นตัวเองกลับเป็นผู้เสียดายความเป็น “เรา” และไม่อาจละทิ้งได้ ตอนแรกคิดว่าเป็นสัญญาเก่าในชาตินี้ว่า เราเกิดมาดี ชีวิตเราดีมาก ๆ ทั้งการศึกษา หน้าที่การงาน ทำให้เราวางไม่ลงด้วยความเสียดาย แต่แท้ที่จริงแล้วมันเป็นสัญญาเดิม ๆ ที่ติดมาไม่รู้กี่ภพชาติ ถึงจะฟังที่หลวงตาสอนว่า ตัวเราไม่มีมาตั้งแต่ต้น ตอนนี้ใจก็ยังไม่ยอมวาง แต่ไม่ท้อเพราะเข้าใจแล้วว่าตัวเรามีอวิชชาห่อหุ้มมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ ก็ต้องมีความเพียรที่จะละต่อไปค่ะ ตอนนี้ก็พิจารณาข้อธรรมที่ว่า ตัวเราไม่มีมาตั้งแต่แรกอยู่เนือง ๆ ค่ะ ขอน้อมกราบขอบพระคุณหลวงตาที่ชี้ให้เห็นจุดบอดในการปฏิบัติที่ตัวโยมเองไม่เคยเห็นค่ะ ทำให้การภาวนาก้าวหน้าไปมากค่ะ
หลวงตา : แก้ไขความเข้าใจผิดเดี๋ยวนี้ ว่า ... “ตัวเรามีอวิชชาห่อหุ้มมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ...” เพราะตัวตนของเราไม่มีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จึงไม่มี “อวิชชา” ห่อหุ้มตัวเรา
ถ้าเข้าใจผิด (เป็นมิจฉาทิฏฐิ) ว่ามีอวิชชาห่อหุ้มตัวเรา ก็จะค่อย ๆ ทำลายหรือกะเทาะอวิชชาที่มาห่อหุ้มตัวเราออกทีละน้อย ๆๆ ...
ที่สุดก็จะหลงมีตัวเรา ที่ไม่มีอวิชชาหุ้มห่อ ก็ยังหลงมีความเห็นผิดเป็นอวิชชาอยู่
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2561