ผู้ถาม : กราบนมัสการค่ะ หลวงตา หนูได้สนทนาธรรมกับหลวงตาที่บ้านจิตสบาย หลวงตาได้เมตตาสั่งสอนว่า หนูยังมีเราเป็นตัวผู้รู้ ผู้เห็น ก็ได้กลับมาสังเกตว่ามีเราจริง ๆ และวางมันไปเรื่อย ๆ
จนกว่าใจจะยอมและขาดอย่างถาวร ยังมีอีกคำแนะนำ หลวงตาแนะนำว่าเมื่อปล่อยสภาวะใดไปแล้วก็ไปยึดสภาวะอื่นอีก เหมือนยังวางไม่สุด อันนี้หนูปัญญาไม่ถึงค่ะ มันมีการพอใจกับอาการละเอียด
ๆ ได้ฟังไฟล์เสียงหลวงตา หลวงตาบอกว่าการจะเข้าใจถึงความไม่มีจริง จะต้องเคยพบสภาวะตรงนั้น มีผู้บอก ผู้ชี้แนะก่อน จึงจะทราบ ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ??♀??
หลวงตา : รู้อะไร ก็ให้ปล่อยวางตัวเรา “ผู้รู้” เรื่อยไปจนกว่าจะหมดความรู้สึกว่ามีตัวเรา ถ้ามีความรู้สึกว่ามีตัวเราผู้เสวยอาการอะไร ก็วางตัวเราไปอีก
“การปล่อยวาง” คือ การวางทั้งอาการที่ถูกรู้ วางผู้รู้ผู้เสวยอาการนั้นทุกปัจจุบันขณะ เช่น มีการพอใจอาการละเอียด ให้วาง “อาการ” นั้น และวาง “ตัวเรา” เราผู้รู้อาการและผู้พอใจอาการละเอียดนั้นด้วย
|ความไม่มี| … ไม่ใช่อาการว่างที่เป็นอารมณ์ว่าง
|ความไม่มี| … คือ ไม่มีตัวตนของเราอยู่จริง หรือ ความไม่มีตัวตน
จะพบความไม่มีตัวตน ต้องปล่อยวาง “ผู้รู้” คือความรู้สึกที่เป็นตัวเราเป็นผู้รู้ หรือผู้รู้เป็นเรา
|ความไม่มี| หมายถึง ไม่มีตัวตนของผู้ไปเสวยอารมณ์
แต่อาการหรืออารมณ์ยังมีอยู่ตามปกติ
ผู้ถาม : กราบขอบพระคุณค่ะหลวงตา น้อมนำไปปฏิบัติค่ะ ปล่อยวางทั้งอาการที่ถูกรู้ และผู้รู้ทุกขณะปัจจุบันค่ะ ขอน้อมกายและจิตให้หลวงตาสั่งสอน เคาะกะลาไปจนรู้แจ้งเห็นจริงเจ้าค่ะ ??♀?? ขอ
บุญกุศลที่หนูได้กระทำ รักษาธาตุขันธ์หลวงตาด้วยเจ้าค่ะ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561