ผู้ถาม : กราบท่านอาจารย์ครับ ผมมีความรู้สึกว่าเรามีความจำเป็นต้องเร่งปฏิบัติให้มากขึ้นเพราะอายุมากขึ้นแล้ว ถ้าขืนชักช้ามากไปกว่านี้อาจไม่ทันการ จึงพยายามฟังไฟล์เสียงและกัดติดจดจ่อกับการ
รู้ตัวแล้วปล่อยวางให้มากขึ้น ทั้งขณะที่เริ่มตื่น จนกระทั่งก่อนหลับ จนวันนี้ เวลา ประมาณ ๒ นาฬิกาตื่นขึ้นมาก็เริ่มทำความรู้สึกตัวแล้วปล่อยวางโดยการวางสิ่งที่ถูกรู้ที่เป็นสังขารทั้งหลาย จนเห็นผู้รู้ที่ไปรู้
สังขารแล้วก็ปล่อยวางผู้รู้อีกเป็นอยู่อย่างนี้จนขณะจิตหนึ่งจึงเกิดการวางผู้รู้ไปโดยไม่ได้ตั้งใจวาง แต่รู้ว่ามันวางไปโดยไม่ต้องทำอะไร แล้วเหมือนทุกอย่างที่เคยทำมันไม่ต้องทำอะไร ได้แต่รู้ รู้โดยไม่ต้อง
พยายามเหมือนก่อนหน้านั้น สิ่งที่ถูกรู้ที่เป็นสังขารก็ยังมีให้รู้อยู่ แต่เราไม่ต้องไปจ้องวางเหมือนเมื่อก่อนได้แต่รู้เห็นว่ามันเคลื่อนไหวของมันอยู่ตลอดเวลาโดยเราไม่ได้ไปทำอะไรกับมันอีก ตอนนี้ก็มีความ
รู้สึกว่า ไม่มีอะไร ไม่ทำอะไร ได้แต่รู้ว่าอยู่อย่างปกติ ไม่ได้ดิ้นรนที่จะปล่อยวาง หรือพยายามทำอะไรให้เป็นอะไร ทำอย่างที่เคยเกิดหรือพยายามให้เกิดมันหายไป ซึ่งอาการอย่างนี้ไม่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่
ปฏิบัติมา เคยแต่ต้องพยายามให้เกิดทำให้เกิด พยายามวาง ตั้งใจวาง แต่ตอนนี้มันรู้เฉย ๆ แต่อาการที่มันบอกไม่ถูกว่ามีลักษณะอย่างไร รู้แต่ว่ามันหยุดทำ แต่ก็รู้อยู่ จึงกราบเรียนให้ท่านอาจารย์ทราบ
หลวงตา : สาธุ อนุโมทนาด้วยนะ หลังจากที่เพียรกระทำมาหลายสิบปี
อยู่กับรู้ ที่ไม่มีความรู้สึกว่าตัวเราเป็นผู้รู้ หรือผู้รู้ตัวเราอย่างนั้นนั่นแหละ
รอจนธาตุขันธ์แตกดับเมื่อใด “ รู้” ซึ่งเป็นธาตุรู้ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่ได้เป็นของใครนี้ จะกลืนไปเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
จิตวิญญาณไม่มีตัวตนในปัจจุบัน ในอนาคต และตลอดกาล เธอจะสิ้นกิเลส พ้นทุกข์ (นิพพาน)
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561