ผู้ถาม : กราบนมัสการเจ้าค่ะองค์หลวงตา รู้ที่เห็นสิ่งเกิดดับในรู้ ตอนนี้รู้มันขยายวงกว้างรวมไปกับธรรมชาติ ก็ไม่ยึดรู้ เป็นความว่างเปล่าในธรรมชาติ แต่มันก็รู้อยู่ เวลาขันธ์ห้ามันทำอะไรคิดอะไรมันก็รู้ บางครั้งมีความรู้สึกว่ามีตัวเราเข้าไปทำอะไรมันก็รู้ทันว่าสังขาร แล้วต้องปฏิบัติอย่างไรต่อเจ้าค่ะ มันก็เกิด ๆ ดับ ๆ ของมันอยู่อย่างนั้นเองแหละเจ้าค่ะ ไม่มีใครไปอะไร ๆ กับอะไร กับใครเจ้าค่ะ
หลวงตา : ปล่อยวางสังขาร ซึ่งเป็นสิ่งเกิดดับ เป็นของเกิดตายไปเสียให้หมดตลอดเวลา ตลอดเวลา … ๆๆๆ .....
ถ้าหลงไปอยู่กับของเกิดตาย หรือ หลงไปเป็นของเกิดตาย ก็จะมีตัวตน เกิดตาย และ เป็นทุกข์อยู่ร่ำไป ไม่มีผู้ใดยึดถือสังขาร ที่เกิดเอง ดับเองนั้น
และ ไม่มีผู้ใดพยายามยึดถือใจหรือธาตุรู้ ที่ปราศจากผู้ยึดถือ ซึ่งเป็นสิ่งไม่เกิด ไม่ดับ เป็นความไม่มีอะไรปรากฏ
ก็จะเป็น “ใจ” หรือ “ธาตุรู้” ที่ไม่ปรากฏอะไร ไม่เกิดไม่ดับ ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ในนั้นเลย ในนั้นจึงไม่มีผู้ทุกข์
ผู้ใดพบใจ ผู้นั้นพบธรรม
ผู้ใดถึงใจ (เป็นใจ) ผู้นั้นถึงพระนิพพาน
“ใจ” ที่สิ้นยึดถือ หรือ สิ้นอวิชชา จะเป็นความว่างเปล่า แต่มีความรู้พระธรรมที่ออกมาจาก “ใจ” ที่ว่างเปล่านั้น เป็นพระไตรปิฎกไร้ตัวอักษร เหมือนกับแถบว่างเปล่าของอากู๋ google ถ้ามีผู้ป้อนข้อมูล ก็จะมีข้อความสมมติไหลออกมาเอง
ผู้ถาม : เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ กราบแทบเท้าขอบพระคุณเจ้าค่ะ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2561