ผู้ถาม : สติ คือรู้ อยู่กับรู้ อาศัยความเพียร เพียรอยู่กับรู้นั้น เป็นชั่วโมงบิน ลูกเข้าใจถูกต้องไหมเจ้าคะ
หลวงตา : สาธุ ต้องฝึกอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพียรมีสติ ปัญญา สังเกตให้รู้เห็นความจริงด้วยใจว่า
ความคิดหรือความรู้สึกว่าเรา ตัวเรา หรือ ของเรา เป็นเพียงสังขารหรือสิ่งปรุงแต่งขึ้นมา เป็นเพียงสมมติ
ส่วน “ใจ” หรือ “ธาตุรู้” ที่ หายโง่ (ไม่มีอวิชชาปน) เป็นธรรมชาติแท้ ไม่ปรากฏอะไรเลย เรียกว่า วิสังขาร
***** ขณะจิตที่ไม่มีอวิชชาปน จะสังเกตเห็นได้แต่สังขาร คือ “สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติที่ไม่มีอะไรปรากฏ ซึ่งเป็นใจหรือธาตรู้ ที่เป็นวิสังขารนั้น แล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา” ตลอดเวลา ตลอดเวลา
แม้จะมีความคิดหรือความรู้สึกว่าเป็นเรา ตัวเรา หรือ ของเรา ก็เป็นเพียงสังขารปรุงแต่ง ที่ปรุงแต่งขึ้นมาแล้ว ก็ดับไปเป็นธรรมดา ไม่ได้เป็นตัวตนของเราที่เที่ยงแท้แน่นอน จึงเป็นเพียงสมมติเท่านั้น
เมื่อไม่หลงสมมติว่ามีเรา ตัวเรา หรือ ของเรา อยู่ในธรรมชาติที่เกิดดับ และ ในธรรมชาติที่ไม่เกิดดับนั้น ก็สิ้นอวิชชา คือ หายโง่
ธรรมชาติหรือสิ่งใดเกิดดับได้ ย่อมไม่เที่ยง (อนิจจัง) เป็นทุกข์ (ทุกขัง) ไม่ใช่เรา ตัวเรา ของเรา (อนัตตา)
ส่วนธรรมชาติหรือสิ่งใดไม่เกิดไม่ดับ (วิสังขาร) ย่อมพ้นจากอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือ พ้นทุกข์
เป็น
“นิพพานัง ปรมัง สุญญัง
นิพพานัง ปรมัง สุขัง”
ตลอดกาล อย่างเป็นอมตะ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2561