ผู้ถาม : มันถลำเข้าไปมีอุปาทาน มีความดีรักชั่วชัง มันพิจารณาย้อนกลับเข้าหาผู้รู้ ผู้อุปาทาน เมื่อปล่อยวางผู้รู้ จึงสงบระงับ และอุปาทานก็ดับลง สู่สภาวะเป็นกลางได้ มันรู้แล้วว่า มันอยู่ที่ผู้รู้ ดับผู้รู้ได้ เรือนทั้งหลังย่อมพังทลาย เดินจงกรมรอบแล้วรอบเล่า เห็นผู้รู้ชัดเจน คาอยู่เป็นตัวตนคงที่ เพียรจี้ทุกทางเพื่อให้ผู้รู้นี้แตกทำลาย เดินไตรลักษณ์ แต่มองอย่างไรก็ทำลายผู้รู้ไม่ได้
มีหิ่งห้อยบินมา ลูกเห็นแสงที่ออกจากหิ่งห้อย มันระลึกถึงสิ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกว่า อวิชชา มันก็เหมือนไส้ของหลอดไฟ มันเป็นตัวทำให้หลอดเรืองแสงได้ แต่เราไม่รู้ เราเข้าใจว่า ตัวหลอดแก้วข้างนอก คือตัวสร้างแสง
มันพลิกเลยเจ้าค่ะ "ตัวเรา" ที่เห็นคงที่นั้น มันเป็นแค่หลอดด้านนอก เมื่อไล่เข้าไปเห็นสังขารตัวที่มันกำลังเดินปัญญา ตัวที่แสดงพฤติแห่งจิต เพื่อดับ "ตัวตน" ตัวแรก
จึงมองลึกไปอีกว่า ไหนเล่าตัวการที่ผลิตปัญญา ผลิตสังขาร ผลิตพฤติแห่งจิตนั้นมันอยู่ตรงไหน จะได้จัดการมัน มันหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ สิ่งที่เจอ มีเพียงกริยาอาการเท่านั้น ธรรมมันขึ้นมาว่า "ของที่หา มันไม่มี พฤติแห่งจิต เกิดขึ้นมาจากความว่าง เจ้าหลงหาตัวตน มันไม่มีหรอก มันไม่มี" มันพลิกเลยเจ้าค่ะ
เห็นพฤติแห่งจิตทั้งหมด แม้ในส่วนที่ละเอียดที่สุด ล้วนเกิดมาจากความว่าง ตัวตนผู้สร้างไม่มี เป็นรอยเท้านกบนอากาศ ไม่มีใครไปทำลายได้เลย เพราะมันไม่มีมาตั้งแต่แรก
หลวงตา : เลขหนึ่งไทย ไล่เข้าไป ใจกลางกลับว่างเปล่า
มันหลงไปแล้ว หลงไปแล้วจริง ๆ หลงไปทำลาย สิ่งที่ไม่มี 55555555
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2561