ผู้ถาม : ฟังไฟล์ของคุณปกรณ์แล้ว ชัดเจนเป็นประโยชน์มากเจ้าค่ะ ชอบตรงที่บอกว่า ขันธ์ 5 มันเพียรของมันอยู่ ไม่ได้มีตัวเราไปเพียร เมื่อไม่มีตัวเราเพียร มันจะไม่มีตัวเรารอรับผล แล้วยังบอกว่า ถ้าไม่ชัดเจนอะไรให้พิจารณาให้เต็มที่ ใช้สังขารนี่แหละ พิจารณาใช้ขาด แล้ววางมันไปเลย ตรงกับที่หลวงตาบอกว่า มรรคทุกอันเป็นสังขาร แต่ถึงเวลาใช้สังขารมันก็ต้องใช้ ใช้เสร็จก็วางมันไปเจ้าค่ะ
พิจารณาแล้วว่า ความผิดพลาดของคนส่วนหนึ่ง คือ พยายามรักษาใจที่ไม่สังขารไว้ นั่นมันไม่ใช่มรรค แต่เป็นกิเลสและความยึดถือ มรรคคือ ใช้สังขารมาพิจารณาเพื่อปล่อยวางสังขารต่างหาก ซึ่งตัวเราทั้งตัวเป็นสังขาร ปล่อยวางสังขาร ปล่อยวางตัวเราแล้ว มันจะเป็นอย่างไร จะเกิดผลการปฏิบัติหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของมัน เรื่องของสังขารไปเจ้าค่ะ
หลวงตา : ผู้พยายามรักษาใจหรือพยายามเป็น “ใจ” ที่ไม่สังขาร (วิสังขาร) นั้น
มันเป็นสังขาร เป็นกิเลส อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
รู้เท่าทันสังขาร ไม่ไปเป็นสังขาร ไม่ยึดถือสังขาร
หลังจากนั้น สังขารก็คงปรุงแต่งเกิดดับในท่ามกลางใจที่ไม่สังขาร
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2561