ผู้ถาม : กราบหลวงตาครับ วันนี้ผมได้มีโอกาสดี ได้มีเวลาส่วนตัวมากหน่อย ได้พิจารณาธรรมในใจของตัวเองคนเดียวเงียบๆ ต่อเนื่องกัน เดินจงกรมไปฟังไฟล์เสียงไป ได้ต่อเนื่องนานพอควรครับ มาสะดุดอยู่ตรงจุดหนึ่งที่หลวงตาบอกโยมใน CD ว่าให้อ่านใจตัวเองให้ขาด...
ผมก็เลยได้ลองหยุดฟังไฟล์เสียงแล้ว พิจารณาตัวเองเงียบๆ จนไปถึงจุดหนึ่ง มันก็เห็นความหนักๆแน่นๆในใจที่เหมือนเป็นส่วนเกินของธรรมชาติ จึงได้รู้ว่าที่เดินมานานก็ยังมีหลงอยู่ คือเดินมาตลอดก็หลงเอาตัว "ปัญญา" ที่ละเอียดเป็นตัวเรา เอาความรู้ความเข้าใจที่ว่าลึกซึ้งนั้นมาเป็นตัวเราจริงๆ เหมือนมี "กรอบ" ของความรู้ความเข้าใจ สร้างขึ้นมาเป็นกรอบล้อมใจคือความไม่มีอะไรเอาไว้ แท้จริงคือเราหลงเอาความรู้ความเข้าใจนั้นเป็นความถูก และยึดความถูกนี้มาล้อมเป็นกรอบของตัวตนขึ้นมา คือมันยึดความรู้ความเห็น พอเห็นตรงนี้มันก็เลยค่อยๆ คลายออกเหมือนใจที่มันหลุดออกจากกรอบของความรู้ความเห็น หลุดออกจากความถูกความผิด ออกมารับรู้ธรรมชาติปกติ เลยเหมือนรับรู้ภายนอก เสียงจิ้งหรีด ลมพัดผ่าน เป็นปกติธรรมชาติ ใจเบาไม่มีความหนักว่ามีอะไรมาหุ้มอีก ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องรักษาอะไร....
ตรงนี้เลยเข้าใจที่หลวงตาเคยบอกผมที่ศรีราชาว่า ผมยังติดปัญญาละเอียดๆว่าเป็นตัวเรา ซึ่งสิ่งที่หลวงตาบอกผมก็ไม่ทอดทิ้งเฝ้าดูอยู่ เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นแบบชัดๆ แบบนี้ครับ เมื่อกี้เลยกลับมาอ่านของหลวงปู่ชาที่หลวงตาเคยส่งให้มาอ่านใหม่
ความหลุดพ้น..ปล่อยวางแม้กระทั่งสิ่งที่ถูก...
”อย่าปล่อยวาง”...โดย… “ความยึดมั่นถือมั่น”
อย่ายึดมั่นถือมั่น แม้กระทั่งในสิ่งที่ถูกต้อง
ไม่ยอม เรื่องที่มันยอม
ถ้ามันไม่ยอม มันตั้งตัวขึ้นมาเป็นก้อน เป็นตัวอุปาทาน
นักบวชนักพรตเราโดยมากก็ชอบเป็นอย่างนั้น
เห็นว่าเราถูกแล้ว ก็เห็นว่าเราไม่ผิด
แต่ ความเป็นจริง ความผิด มันฝังอยู่ในความถูก
แต่เราไม่รู้จักนี่ ทิฐิมานะ
ทิฐิคือความเห็น มานะคือความยึดไว้ถือไว้
ถ้าเรายึดในสิ่งที่ถูก ก็เรียกว่ามันผิด ถือถูกนั่นแหละ
ยึดมั่นถือมั่นในความถูก ไม่เป็นการปล่อยวาง
เมื่อปัญญา รู้แจ้งเห็นจริงแล้ว.... “วางทันที”...
วางตัวปัญญานั้นอีกทีเข้าสู่ความว่าง
อยู่กับความว่าง (จิตหนึ่ง)
หลวงพ่อชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
มันโดนใจตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้ายเลยครับ มันตรงเป๊ะๆ ทุกพยางค์เลยครับ... มันยึดความถูก ยึดปัญญาไว้ และถึงใจที่สุดตรงที่บอกว่า "ปัญญาก็ปล่อยวางไป เข้าสู่ความว่าง อยู่กับความว่าง" สิ่งที่หลวงตาเคยทักไว้ บอกไว้ตอนนี้ศิษย์เริ่มมองเห็นมันชัดเจนขึ้นมากเลยครับ กราบในความเมตตาของหลวงตาครับ ตรงกับตัวเองทุกคำตั้งแต่ต้นจนจบครับ อีกอย่างไม่รู้เป็นเพราะจากการตั้งจิตอธิษฐานด้วยหรือเปล่า ว่าจะขอตั้งใจจะเขียนบทความธรรมถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อโลก ขอให้ธรรมแท้ไหลผ่านใจเพื่อให้เขียนธรรมได้อย่างสมบูรณ์ครับ
หลวงตา : เป็นเช่นนั้นเอง
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2561