ผู้ถาม : กราบนมัสการองค์หลวงตาเจ้าค่ะ
ฟังเรื่องปรากฏการณ์ธรรมชาติแล้วชัดเจนมากเจ้าค่ะ ลูกมีความสงสัยอยากถามองค์หลวงตา แต่ก็นึกถึงที่องค์หลวงตาบอกว่าผู้ใดสงสัยผู้นั้นเป็นอวิชชา แต่ก็ต้องถามเพื่อความเข้าใจที่ตรงตามความเป็นจริง ลูกอยากถามองค์หลวงตาว่าผู้รู้ที่คิดนึกตรึกตรองปรุงแต่งได้ มันเป็นแค่ปรากฏการณ์หรือเปล่าเจ้าคะ ใช้หลักนี้มาพิจารณาได้ไหมเจ้าคะ กราบองค์หลวงตาเจ้าค่ะ
หลวงตา : “ผู้รู้” ที่คิดปรุงแต่งได้ เป็นสังขาร เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติฝ่ายปรุงแต่ง แต่ถ้าหากไปหลงยึดว่าเราเป็น “ผู้รู้” หรือ “ผู้รู้” เป็นเรา จะเป็นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ซึ่งเป็นกิเลส
ส่วน “ผู้รู้” ที่เป็นธรรมธาตุ หรือ อสังขตธาตุ หรือ วิสังขาร ที่ไม่มีตัวตน และไม่มีปรากฏการณ์ตามธรรมชาติขึ้นมาเลยนั้น
ก็ไม่ใช่เรา ตัวเรา หรือ ของเรา หากยึดถือ เป็นเรา “รู้” หรือ “รู้” เป็นเรา ก็จะเป็น อวิชชา ตัณหา อุปาทาน ซึ่งเป็นกิเลส
หากมีผู้หลงยึดถือ “ผู้รู้” ทั้งที่เป็นสังขาร และวิสังขาร จะทำให้จิตหรือวิญญาณเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาทันที และเมื่อธาตุแตกขันธ์ดับ (ตาย) ในขณะที่ยังยึดอยู่ ก็จะเหลือจิตหรือวิญญาณเป็นตัวตนไปเวียนว่ายตายเกิดตามกรรมต่อไป
จิตหรือวิญญาณ จะสิ้นตัวตน มีเพียงกรณีเดียวเท่านั้น คือ สิ้นหลงคิดปรุงแต่ง โดยอยู่กับ “รู้” หรือ ไม่มีผู้หลงยึดถือ ทั้งสังขาร และวิสังขาร
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2561