ผู้ถาม : ก่อนการปฏิบัติธรรมเราเป็นคนธรรมดาที่มีแต่กิเลส หลงทำบาปทำกรรม ทั้งดีทั้งชั่ว... พอเรามาปฏิบัติธรรม เราก็พยายาม อยากให้รู้ธรรมเห็นธรรม อยากจะนิพพาน
หลวงตาคะ ณ ตอนนี้ คนธรรมดาคนหนึ่งที่เข้าใจตัวเอง และพร้อมจะแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในการปฏิบัติที่ผ่านมา
การมองไปข้างนอก (ส่งจิตออกนอก) ไปสำคัญมั่นหมาย แล้วเกิดการปรุงแต่งโดยไม่รู้ตัว (ขาดสติ) เป็นการผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง และหลงยึดว่าความรู้สึกนั้นเป็นเราเป็นตัวเรา
แค่มีสติรับรู้ความรู้สึกตามความเป็นจริง ไม่ต้องดัดแปลงแก้ไข เพราะมันเป็นอย่างนั้นแหละ
รสของน้ำตาล คนที่กินแล้วเท่านั้น จะรู้ได้
รู้ ไม่ใช่ความรู้ แต่มีสติรู้สึกตัวทั่วพร้อม รู้ทันการปรุงแต่ง รู้ทันอารมณ์ ความเป็นปกติธรรมดา ทนอยู่ได้ในยามยากลำบาก ไม่ท้อถอย ทุกอย่างล้วนแล้วต้องผ่านไป
ความมั่นคงจากข้างใน จะไม่เบียดเบียนผู้อื่น และไม่เบียดเบียนตน เมื่อมีรู้ ก็จะมีบางอย่างนิ่งเงียบอยู่ ไม่เกี่ยวข้องกัน จะเรียกว่าอะไรก็ไม่ได้ เหนือสมมติ เหนือการตั้งชื่อ ใครล่ะจะรู้จัก เป็นปัจจัตตังเท่านั้น
มี ไม่มี
ไม่มี มี
หลวงตา : ยังหลงยึดมั่นถือมั่นว่ามีเราหรือตัวเราเป็นผู้รู้แจ้งธรรมตามที่กล่าวมานั้น
ปุจฉาวิสัชชนาธรรมเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565