ผู้ถาม : วันนี้มีช่วงเวลาทำพลังลมปราณที่ยาวนานมาก (เพราะทำไม่ได้สักที) ทำไปมันก็รั่วตลอด คือช่วงเวลาที่ทำมันมีธรรมปรากฏให้รู้มาเรื่อย ๆ พอรู้สึกว่า “อ๋อ เข้าใจผิดอันนี้” แล้วมันก็สงบ พอสงบก็เริ่มทำพลังลมปราณรอบใหม่ แต่ทุกครั้งคือมันท่องไป แล้วมันไม่รั่ว มันสงบถึงกลาง ๆ คาบยังไม่จบคาบแต่มันจะพูดวิธีการปฏิบัติขึ้นมา
แค่มันเคลื่อนจากคำอธิษฐานไปรับรู้วิธีการปฏิบัติที่ตัวเองพูดขึ้นมาในความเงียบ คือ แค่เคลื่อนออกไปรู้ มันจะรั่วทันที สุดท้ายมันเลยท่องไม่จบเลยสักรอบ
ซึ่งตอนแรกเราไม่เข้าใจ จะไปทำให้มันไม่พูดแต่ก็กลายเป็นการบังคับมีความอึดอัดตั้งแต่แรก นี่ก็ไม่ใช่ทาง ครั้นจะปล่อยวางรับรู้สิ่งที่พูด ธรรมะที่พูดตามความจริงที่ปรากฏ แต่แค่รู้ มันก็เคลื่อนออกไปรั่วแล้ว หรือจะให้รู้เฉย ๆ นี่ก็รั่วอีก จนเราทนไม่ไหว
จิตที่ปรุงแต่งธรรมะในการปฏิบัติขึ้นมานั้น มันลากเราออกไปตลอดเวลา จนสุดท้ายเราเลยตวาดตัวเองอย่างแรง บอกว่า “หมอจุ๋งจิ๋ง หยุดเดี๋ยวนี้นะ นี่มันเป็นเวลาทำพลังลมปราณ ไม่ใช่เวลามาบรรยายธรรมให้ตัวเองฟัง” มันเหมือนกับ เอื้อก… ชนกำแพงไร้สภาพแล้วก็หยุดและหายไปเลย แล้วถึงทำพลังลมปราณได้ตามปกติ
เราเลยเรียนรู้ว่า การใช้สติปัญญาเพื่อหยุดตัวเองและเป็นสติปัญญาในขันธ์ห้า ที่พัฒนาให้อยู่เหนือตัวเองมันเป็นยังไง ตอนนี้มันกลับมาพูดใหม่แล้ว แต่รู้ มันอยู่เหนือสิ่งที่พูดอยู่ และสติปัญญามันก็หายไปเองเหลือแค่รู้แก่ใจว่าไม่ได้ไปเป็นสิ่งที่พูดเท่านั้นเอง
หลวงตา : สาธุ
มันจะเรียนรู้ความจริงจากประสบการณ์ตรงอย่างนี้แหละ!!! จนหลุดพ้นจากสังขารปรุงแต่ง หลุดพ้นจากความหลงยึดมั่นว่าเป็นอัตตาตัวตน เป็นตัวเรา เป็นของเรา หรือ ตรงที่ไม่มีการไป ไม่มีการถอยกลับ ทั้งไม่ใช่หยุดนิ่งอยู่ จึงเป็นที่สุดแห่งทุกข์
ผู้ถาม : กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ เพิ่งชัดเจนที่ใจวันนี้เองเจ้าค่ะ
ไม่มีการไป คือ ไม่มีการปฏิบัติเพื่อให้ตัวเราไปไหน ไปเป็นอะไร ไปถึงอะไร ไปก้าวหน้า ไปเจริญในธรรม
ไม่มีการถอยกลับ คือ ไม่มีการถอยกลับไปเป็นกิเลส ตัณหาใด ๆ อีก
ทั้งไม่ใช่การหยุดนิ่งอยู่ คือ ไม่ใช่แม้แต่การ "รู้" สิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ตั้งแต่รู้มากที่สุดปรุงแต่งพูดไม่หยุด จนถึงรู้แบบที่ปรุงน้อยสุดแค่ปรมาณูของรู้ ที่เคลื่อนไปรู้ได้ มันก็ไม่ใช่แล้วเจ้าค่ะ (ข้อนี้ เข้าใจยากที่สุด จริง ๆ คือ ไม่สามารถเข้าใจได้เลยด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นเรื่องของการอ่านสภาวะภายในโดยตรงเจ้าค่ะ)
พอไม่ใช่ทั้งสามอย่างนี้ มันจะมีแค่ที่เดียวจริง ๆ ที่ไม่ไป ไม่มา ไม่หยุดอยู่ คือ เอโกธัมโม ไม่เคลื่อนที่ ไม่ปรากฏ เจ้าค่ะ
ปุจฉาวิสัชชนาธรรมเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565