ผู้ถาม : วันนี้ค้นพบเคล็ดวิชาในการทำพลังลมปราณชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนช่วงที่กลั้นหายใจและท่องบทอธิษฐานจิต มันไว้วางใจให้ทุกสิ่งดำเนินไปตามทางของมันจริง ๆ คือ มันรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ทั้งแสงสี พลังงานที่ปรากฏล้วนแต่ปรากฏได้ เพราะ ‘ใจ’ ไม่ใช่เป็นเพราะตัวเรากลั้นหายใจอีกต่อไปแล้ว
พอรู้ว่าทุกสิ่งปรากฏออกมาจากใจ มันก็สงบและแปลกที่น้ำมันไม่รั่วเข้ามาเลย แม้ว่าเราไม่ได้กลั้นหายใจแล้ว พลังงานที่ออกมาจากความว่างมันสะเทือนผิวน้ำและแผ่ขยายออกไป มันเป็นความเย็นและความสงบ ทะลุออกไปทุกทิศทาง รวมถึงที่ศีรษะ มันเย็นวาบออกไปเลย หัวมันโล่งไปหมดจริง ๆ
อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ด้วย ในชีวิตประจำวันมันเข้าใจอะไรกลับด้านกับเมื่อก่อน คือ จากเดิมที่ต้องมีการปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเห็นปัญญาที่ถูกต้องมันจึงจะปล่อยวางสังขารทุกอย่างที่ปรากฏจนพบใจอันเป็นความสงบ สันติที่สุดในชีวิต
คือ เราเข้าใจว่าเพราะปล่อยวางจึงพบใจและมันยังโหยหาใจ มันจึงมีความเพียรในการปล่อยวางอยู่
แต่ตอนนี้เรากลับรู้สึกว่าเป็นเพราะ ‘ใจ’ ที่มีคุณสมบัติเช่นนั้นโดยธรรมชาติต่างหาก จึงทำให้เกิดการเข้าใจตามธรรมและปล่อยวางสรรพสิ่งโดยตัวของมันเอง มันเป็นเพราะ ‘ใจ’ ทั้งหมดไม่ใช่เพราะความพยายามใด ๆ ของเราเลยสักนิดเดียวและ ‘ใจ’ นั้น คือสิ่งที่ดำรงอยู่เสมอ ดังนั้น มันจึงเป็นการปฏิบัติโดยไม่ได้ปฏิบัติอะไรเลย เพราะมันเป็นของมันแบบนั้นอยู่แล้ว
หลวงตา : ไม่ใช่ว่าไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรเท่านั้น มันไม่มีผู้ยึดมั่นถือมั่นใจ (ผู้รู้) เสียด้วย
เมื่อสิ้นผู้ยึดมั่นใจ (ผู้รู้) จึงไม่ปรากฏความเป็นเรา ตัวเรา ของเราในใจ
หลังจากนั้นจะไม่ปรากฏใจ (ผู้รู้) อีกเลย
ปุจฉาวิสัชชนาธรรมเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565