ผู้ถาม : กราบขอโอกาสหลวงตาเจ้าค่ะ จากข้อธรรมของหลวงปู่ดูลย์ข้างล่าง
จิต... หมายถึง จิตสังขาร
ผู้รู้... หมายถึง ธาตุรู้
ใช่ไหมเจ้าคะ
เมื่อ “จิต” กับ “ผู้รู้” เป็น “สิ่งสิ่งเดียวกัน” และเป็น “ความว่าง” ก็ย่อมไม่มีอะไรที่จะให้อะไร หรือ ให้ใครรู้ถึง ไม่มีความเป็นอะไรจะไปรู้สภาวะของอะไร ไม่มีสภาวะของใครจะไปรู้ความมีความเป็นของอะไร
เมื่อเจริญจิตจนเข้าถึงสภาวะเดิมแท้ของมันได้ดังนี้แล้ว “จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง” จิตก็จะ “อยู่เหนือสภาวะสมมติบัญญัติทั้งปวง” “เหนือความมีความเป็นทั้งปวง” “มันอยู่เหนือคำพูด” และ “พ้นไปจากการกล่าวอ้างใดๆ ทั้งสิ้น” “เป็นธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และ สว่าง” “รวมกันเข้ากับความว่างอันบริสุทธิ์” และ “สว่างของจักรวาลเดิม” เข้าเป็นหนึ่งเรียกว่า “นิพพาน”
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์
หลวงตา : “จิต” หมายถึงจิตที่สิ้นอวิชชา เป็น “จิตเดิมแท้ หรือ ใจบริสุทธิ์ หรือ พุทธะ”
“ผู้รู้” หมายถึง ธาตุรู้ธรรมชาติเดิมแท้ (บริสุทธิ์)
“จิตกับผู้รู้เป็นสิ่งสิ่งเดียวกัน” หมายถึง เมื่อสิ้น “อวิชชา” แล้ว
จิตเดิมแท้ (บริสุทธิ์) หรือ ธาตุรู้เดิมแท้ (บริสุทธิ์) ตามธรรมชาติ หรือ ความว่าง หรือ ความไม่มี (ไม่มีอะไรปรากฏ) จะเป็นสิ่งเดียวกัน
เมื่อ “จิต” กับ “ผู้รู้” เป็น “สิ่งสิ่งเดียวกัน” และ เป็น “ความว่าง” ก็ย่อมไม่มีอะไรที่จะให้อะไร หรือ ให้ใครรู้ถึง ไม่มีความเป็นอะไร จะไปรู้สภาวะของอะไร ไม่มีสภาวะของใครจะไปรู้ความมีความเป็นของอะไร
“มันอยู่เหนือคำพูด” และ “พ้นไปจากการกล่าวอ้างใดๆ ทั้งสิ้น”
“เป็นธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และ สว่าง” “รวมกันเข้ากับความว่างอันบริสุทธิ์”
และ “สว่างของจักรวาลเดิม” เข้าเป็นหนึ่งเรียกว่า “นิพพาน”
ผู้ถาม : แจ่มแจ้งนักพระเจ้าข้า
กราบขอบพระคุณในความเมตตาของหลวงตาเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ
กราบแบบโอ้โห้ๆๆ เลยค่ะ สุดยอด สุดๆๆๆๆค่ะ
มันเป็นเช่นนี้เองค่ะ
ปุจฉาวิสัชชนาธรรมเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564