ผู้ถาม : เฮ้อ โดนหลอกอีกแล้วเจ้าค่ะหลวงตา
ยึดในจิตรู้จิตเห็น ที่มันรู้ชัดว่าผู้อื่นยึดอะไร ปรารถนาอะไร สอนยังไง ที่พิมพ์ไปข้างบน มันเป็นความจริง
แต่มีตัวเรา ไปยึดถือความจริงนั้น มันเลยมีการปรุงแต่ง ในระดับเบาบาง ละเอียด เนียน ดังผงแป้งจริง ๆ
มันเลยไม่เงียบ
... เมื่อสิ้นยึด ความปรุงแต่งและความเงียบ มันจึงเงียบของมันเอง ...
หลวงตา : สังขารอะไร อะไรในปัจจุบันขณะ *** แม้แต่ความเงียบ ก็ไม่มีผู้ยึดถือ
ผู้ถาม : อ๋อ เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ กิเลสชั้นครูจริง ๆ แต่มันก็เป็นครูของเราเหมือนกัน
ทำไมถึงได้ละเอียดขนาดนี้ก็ไม่รู้เจ้าค่ะ
หลวงตา : มีผู้ยึดถือไม่ว่าจะเป็นสังขาร หรือ วิสังขาร จะเกิดอวิชชา ตัณหา อุปาทานทันที
แม้ยึดถือความสิ้นยึดถือ ก็เป็นกิเลส อวิชชา ตัณหาอุปาทาน
ผู้ถาม : ยึด ที่จะให้สิ้นยึดด้วย
นี่ ตัวสำคัญ
ต้องสิ้นความปรารถนา แอบแฝงจริง ๆ
หลวงตา : ความพยายามให้สิ้นความปรารถนาที่แอบแฝง ก็เป็นกิเลส อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
ผู้ถาม : ธรรมที่กระแทกในระดับเดิม มันไม่ถึงใจ ทะลุใจเหมือนเดิมแล้วเจ้าค่ะ มันไม่ทุกข์ แต่ไม่ถึงใจ
OK เจ้าค่ะ เท่านี้เอง ไม่ต้องรู้ว่ายึดอะไร
เพราะตัวที่รู้ว่ายึดอะไร ก็เป็นสังขาร
ปล่อยมันเป็นแบบที่มันเป็น ไม่มีเป้าหมาย ว่าต้องยังไง
หลวงตา : ***** “รู้แก่ใจ” ว่าสิ้นยึดถือ
พระอริยเจ้าทั้งหลาย “อยู่กับรู้แก่ใจว่าอะไร อะไร ก็ไม่มีผู้ยึดถือ”
จะเป็นผู้สอนเขา .........
ต้องรู้เห็นจิตและธรรม ไม่ว่าจะละเอียดเพียงใด
รู้เห็นจากใจจริง ๆ ว่า ไม่มีผู้ยึดถือทุก “ปัจจุบันจิต” “ปัจจุบันธรรม”
ปัจจุบันจิต = “จิตตสังขาร” ที่มีความรู้สึก นึก คิด ตรึก ตรอง ปรุงแต่ง แสดงพฤติกรรมต่าง ๆ แสดงอาการ หรือ แสดงอารมณ์ให้ใจรู้ได้ในปัจจุบันขณะ
ปัจจุบันธรรม = ทั้งสังขารธรรม (ธรรมชาติที่ปรุงแต่ง เกิดดับ) และ วิสังขารธรรม (ธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่ง ไม่เกิดดับ ไม่มีตัวตน ไม่มีรูปลักษณ์ใดปรากฏ ..... มีชื่อสมมติหลายชื่อ เช่น ใจ จิตเดิมแท้ หรือ จิตดั้งเดิม นิพพาน มหาสุญญตา ....) ปัจจุบันขณะ
ให้ฟังไฟล์ใหม่ที่ส่งให้วันนี้ เรื่อง “ใจ รู้จัก ใจ”
ให้เข้าใจชัดเจนถึงใจ “เป็นใจ” ไม่หลงเป็นสังขาร
(ไฟล์เสียง “ใจรู้จักใจ” รับฟัง คลิ๊ก http://bit.ly/2HlJ7wy)
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2562