ผู้ถาม : น้อมกราบองค์หลวงตาด้วยกายและใจอย่างที่สุดเจ้าค่ะ ครั้งที่แล้วองค์หลวงตา ได้ชี้แนะให้หนูสังเกต ศึกษา ธาตุและหน้าที่ของธาตุแต่ละธาตุ ตอนนั้น หนูก็ไม่เคยภาวนาในเรื่องธาตุเจ้าค่ะ มันเกิดขึ้นมาเองเจ้าค่ะ และเมื่อ 3 วันก่อน หนูก็ไม่ได้ตั้งใจจะพิจารณาเรื่องธาตุเจ้าค่ะ หนูเดินจงกรมเสร็จ ก็มานั่งสมาธิแต่ไม่ได้จะเอาความสงบหรือสบายอะไรเจ้าค่ะ แค่นั่งรู้สึกตัวว่า หายใจเข้าออก ในขณะนั้นมันมีลมพัดมากระทบ แต่หนูก็ไม่ได้ใส่ใจ แค่รู้สึกถึงลมภายนอกและภายในเท่านั้น ชั่วขณะนั้น มันเห็นเจ้าค่ะว่า ลมภายนอกและลมภายใน มันเป็นหนึ่งเดียวกันเจ้าค่ะ แต่มันไม่มีตัวหนู พอสักพักมันรู้สึกร้อน แล้วมันรู้สึกเหมือนกับความร้อนมันก็เป็นหนึ่งเดียวกับแสงแดดเจ้าค่ะ แต่มันก็เหมือนไม่มีหนูอยู่เลยขณะนั้น มันมีแต่ธาตุไฟ ธาตุลม แต่มันก็แยกกันเจ้าค่ะ
มันเป็นความจริงอย่างที่องค์หลวงตาบอกเจ้าค่ะ ว่าเราเกิดมาจากธาตุ 4 หนูจะบอกเล่าให้ใครฟังก็ไม่ได้เจ้าค่ะ เพราะแต่ละคนก็มีสภาวธรรมที่เกิดไม่เหมือนกันเจ้าค่ะ หนูพิจารณากาย ก็ไม่ลงแก่ใจ แต่พอนั่งดูการหายใจเล่น ๆ มันเกิดสภาวธรรม มาให้พิจารณาทีละนิด จากธาตุลมเห็นธาตุดิน และจากธาตุลมเห็นธาตุไฟ แล้วหนูจะภาวนาพิจารณาต่ออย่างไรเจ้าคะให้ลงแก่ใจ ขอองค์หลวงตา โปรดเมตตาชี้แนะเจ้าค่ะ น้อมกราบองค์หลวงตาเจ้าค่ะ กราบสาธุเจ้าค่ะ
หลวงตา : ให้พิจารณาอย่างที่เห็นนั่นแหละให้ต่อเนื่อง จนรู้ในสัจธรรมความจริงถึงใจว่า ตัวตนที่เป็นเรา ตัวเรา ของเราจริง ๆ นั้นไม่ได้มีอยู่จริงเลยสักน้อยหนึ่ง นิดหนึ่ง ปรมาณูหนึ่ง
มันเป็นการผสมปรุงแต่งขึ้นมาจากธาตุลม ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุอากาศ (ความว่างที่ไม่มีความรู้) และ ธาตุรู้ (ความว่างที่มีความรู้) ตามธรรมชาติทั้งหมด
มันเป็นความโง่ (อวิชชา) ที่หลงยึดมั่นถือมั่น ขี้ตู่เอาธาตุตามธรรมชาติเหล่านั้นมาเป็นตัวเป็นตน เป็นเรา ตัวเรา ของเรา
“นิพพาน” หายโง่ (สิ้นอวิชชา) เท่านั้น ก็สลัดคืนธาตุทุกธาตุคืนธรรมชาติเขาไปหมดใจ ไม่เยื่อใยอาลัยอาวรณ์ในขันธ์ห้า ที่ประกอบขึ้นมาด้วยธาตุตามธรรมชาติทั้งหมดอีกเลย ได้ชื่อว่า อนาลโย หรือ ขีณาลโย
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562