ผู้ถาม : กราบนมัสการส่งการบ้านเจ้าค่ะ ชีวิตดำเนินไปอย่างปกติ เห็นสังขารปรุงแต่ง อยู่กับสังขารปรุงแต่ง และยอมรับสังขารปรุงแต่ง จนคุ้นเคยเป็นปกติธรรมดา ไม่ยึดอดีต ไม่ยึดอนาคต ปัจจุบันก็ไม่มีตัวตน สังขารเกิดดับอยู่ท่ามกลางสมมุติทั้งสิ้น เวลาจิตมันชอบ มันก็ยุกยิก ๆ เวลาจิตมันไม่ชอบมันก็ยุกยิก ๆ แค่สองอย่างนี้ แต่เวลาเฉย ๆ ไม่ยุกยิก แต่รู้ว่าเบา ๆ เป็นปกติธรรมดา ๆ ไม่มีใครกระทำอะไร แต่อันนี้มันละเอียดกว่า เห็นได้ยาก แต่รู้สึกได้
หลวงตา : เพราะมัวแต่ไปสนใจ ให้ค่า ให้ความสำคัญอารมณ์ที่ถูกรู้ คือ ความรู้สึกโปร่ง โล่ง เบา สบาย ว่าง
จึงไม่สังเกตเห็นผู้รู้ความรู้สึกเบาสบาย มันจะพูดพากษ์อยู่ในใจตลอดเวลา
ให้สังเกตเห็นผู้รู้ที่พูดพากษ์อยู่ในใจตลอดเวลา อย่าไปสนใจ ให้ค่า ให้ความสำคัญ อารมณ์ที่ถูกรู้
มันจะเสียท่าเขา คือ กิเลส ความทุกข์ เหลือตัวตนของผู้ต้องไปรับกรรม
สังเกตเห็นผู้รู้ที่พูดพากษ์ทุกปัจจุบันขณะ แค่รู้เท่าทันเขา ว่าเขาเป็นสังขารพวกสิบแปดมงกุฎ อย่าหลงไปยึดถือเอามาเป็นตัวตนของเรา เป็นเรา เป็นของเราเป็นอันขาด มันจะเสียท่ากิเลส ความทุกข์ และไม่สิ้นตัวตนที่จะต้องไปรับกรรมในภพชาติต่าง ๆ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562