ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ
เมื่อมีสิ่งใดมากระทบ ล้วนเป็นเงาอยู่ในกระจกให้เป็นผู้รู้เงา เห็นเงา แต่อย่าหลงไปเป็นเงา หรือเล่นกับเงา มันจะเป็นการเพิ่มเงาเรื่อยไป ก็มีผู้ทุกข์ไม่จบไม่สิ้น
ทุกครั้ง ที่มีเราไปยึด ไม่ว่าจะเป็นโลก หรือ ธรรม ขณะนั้นก็มีตัวเรา ในกระจกไปหลงเล่นกับเงาแล้วเจ้าค่ะ
ความพ้นทุกข์ คือ ต้องไม่หลงยึดถือเงาในกระจกมาเป็นเรา ของเรา
กราบขอบพระคุณหลวงตาที่เมตตา ชี้ให้เห็นเงา และไม่หลงไปเป็นเงา หรือไปเล่นกับเงาเจ้าค่ะ
หลวงตา : ถ้าหลงมี "ตัวเราไม่ยึดถือตัวเราที่เป็นเงาในกระจก" ก็ยังเป็นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน
เพราะหลงมีเรา ตัวเรา เป็นผู้ไม่ยึดถือ หรือ ยังหลงยึดถือความคิด ความปรุงแต่ง ความรู้สึกว่าเรามีตัวตน เป็นเรา เป็นตัวตนของเรา หรือ หลงยึดถือขันธ์ห้าเป็นตัวตนของเรา แล้วหลงยึดมั่นถือมั่นความคิด ความเห็น ความปรุงแต่ง ความรู้สึกนั้น ว่าเรามีตัวตน เป็นเรา เป็น เป็นของเราจริง ๆ
หรือหลงยึดถือใจหรือจิตเป็นตัวตนของเรา หรือ หลงยึดถือจิตใจเป็นของเราจริง ๆ
ผู้ถาม : แจ้งแล้วเจ้าค่ะ
ไม่เป็นอะไร กับอะไร
ทั้งตัวใจ และ ตัวเรา
เพราะตัวเรานั้นไม่มี
ไม่มีเรา ก็ไม่มีเงา เจ้าค่ะ
กราบ เจ้าค่ะ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2562