ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาค่ะ โยมได้ฟังไฟล์ จิต ใจ แล้วสังเกตเงียบ ๆ ที่ใจ เกิดความรู้ความเข้าใจจากสภาวะที่ปรากฏว่า "เมื่อใดอยู่กับสิ่งที่มี จะไม่พบความไม่มี เมื่อใดรู้ว่าอยู่กับสิ่งที่มี จะพบความไม่มี สิ่งที่มีผุดขึ้นในความไม่มี เมื่อจะหาความไม่มี จะพบสิ่งที่มี เมื่ออยู่กับรู้เป็น ก็เย็นใจ"
สิ่งที่มีคือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร เป็นมายาเหมือนภาพสะท้อนในกระจกเงาของวิญญาณ (จิต) คือไม่มีก็เหมือนมี มีก็เหมือนไม่มี
ขอหลวงตาโปรดเมตตาชี้แนะ กราบขอบพระคุณและระลึกถึงหลวงตาด้วยการปฏิบัติบูชาค่ะ
หลวงตา : รู้เห็นจากใจว่า ความมี (สังขาร) เป็นธรรมชาติเกิด ๆ ดับ ๆ ในความไม่มี (วิสังขาร)
รู้แจ้งแก่ใจว่า ไม่มีผู้หลงยึดถือทั้งความมี และ ความไม่มี
รู้แจ้งแก่ใจว่าสิ้นผู้เสวยหรือสิ้นผู้ยึดถือ ก็สิ้นกิเลส และไม่มีผู้ทุกข์ (นิพพาน) ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่ต้องเกิด-ตาย
“ใจ” ที่รู้แจ้งด้วยใจเองว่า สิ้นยึดแล้ว สิ้นผู้ทุกข์ (นิพพาน)
“ใจ” นี้ ไม่เกิด ไม่ดับ เป็นนิพพานธาตุ เป็นอมตธาตุ อมตธรรม
ผู้ถาม : เข้าใจแล้วเจ้าค่ะหลวงตา
ไม่ใช่ "อยู่กับสิ่งที่มี" แต่เป็น "รู้ว่าอยู่กับสิ่งที่มี"
มันไม่เหมือนกันจริง ๆ เจ้าค่ะ
หลวงตา : ไม่ใช่อยู่กับสิ่งที่มี หรือ รู้ว่าอยู่กับสิ่งที่มี
***** แต่อยู่กับรู้
ถ้าไม่หลงยึดถือหรือติดไปกับอารมณ์หรือสิ่งใด ๆ ที่ถูกรู้ ทุกปัจจุบันขณะ
ได้แต่แค่รู้ และ ไม่หลงยึดถือผู้รู้ ว่าเราเป็นผู้รู้ หรือ ผู้รู้เป็นเรา
เรียกว่า “อยู่กับรู้” หรือ “สักแต่ว่ารู้”
โดยธาตุรู้ตามธรรมชาติหรือใจหรือจิตดั้งเดิมแท้ ๆๆ เขาเป็นธรรมชาติที่ได้แต่รู้ หรือ สักแต่ว่ารู้ (ไม่ใช่เอาตัวเราไปทำความพยายามสักแต่ว่ารู้) ไม่มีตัวตนของผู้รู้ ไม่ใช่ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุอากาศ ไม่ใช่อรูปฌาน ไม่อาจเคลื่อนไหวเกิดดับได้ ไม่มีการไป ไม่มีการมา ทั้งไม่หยุดนิ่งอยู่
ถ้าเป็นธาตุรู้ตามธรรมชาติที่เรียกว่า “ใจ” นั่นแหละ นิพพาน
ผู้ถาม : องค์หลวงตาเจ้าคะ เมื่อก่อนลูกรู้สึกว่าเคยเข้าใจว่า “ใจ” เป็นสิ่งที่ไม่มีที่อยู่ไม่มีที่ตั้ง แต่วันนี้มันเห็นเหมือนทวนกลับด้านมาว่า อาการของใจ หรือ สังขารทุกอย่างที่เป็นสิ่งเคลื่อนไหวเกิดดับ รวมทั้ง “ความรู้สึกที่เป็นตัวเรา” มันไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่ตั้งเช่นกัน
ลูกไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง แต่มันรู้สึกว่า ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรเลยจริง ๆ เจ้าค่ะ ไม่มีอะไรเป็นอะไรเลย ไม่มีอะไรในอะไรที่ “ใช่” สักอย่างเดียว เหมือนมีแต่ก็เหมือนไม่มี ไม่มีแต่ก็เหมือนมี แต่ … ไม่จริงสักอย่างเดียว ไม่มีอะไรกับอะไร ๆ สักอย่างเดียว
ลูกไม่รู้ว่าองค์หลวงตาเข้าใจที่ลูกเขียนบอกมั้ยเจ้าคะ มันไม่รู้จะเอาภาษามาอธิบายอย่างไร มันยากมากที่จะอธิบาย แต่มันรู้ในใจที่สื่อสารไม่ถูกจริง ๆ เจ้าค่ะ มันรู้สึกอึ้ง ๆ กับสิ่งที่รับรู้ ขอเมตตาแนะนำลูกด้วยเจ้าค่ะ
หลวงตา : ตอบด้วยภาพธรรม “ ‘สุญญตา คือ ความจริงแท้ที่ว่า สิ่งทั้งหลายไม่มีตัวตนเป็นของตัวเอง เป็นสภาวะของพระนิพพาน’”
ผู้ถาม : ความรู้สึก คือ ไม่ใช่อะไรเลย ไม่ใช่ทั้งใจ ไม่ใช่ทั้งอาการของใจ ไม่มีฝั่งไหนเลยเจ้าค่ะ
ตอนนี้ลูกรู้สึกเหมือนกำลังจะแตกสลายทำลายไป ใจมันหายไปหมดเหมือนกำลังจะหายตัวไป เหมือนธาตุกำลังจะแตกทำลายไปเลยเจ้าค่ะ เหมือนคนกำลังจะตาย
หลวงตา : มันเป็นของมันอย่างนั้นเอง .... ไม่มีใครเป็น ไม่มีใครตาย ไม่มีใครเกิด
ผู้ถาม : ทิ้งมันไปเจ้าค่ะ มันจะเป็นอย่างไรก็ให้มันเป็นอย่างนั้น ยอมรับตามความเป็นจริงเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณองค์หลวงตาเจ้าค่ะ ขอน้อมกราบแทบเท้าเจ้าค่ะ ขอน้อมกราบองค์หลวงตาด้วยใจเจ้าค่ะ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562