ผู้ถาม : หลวงตาเจ้าคะ แต่เมื่อพิจารณาเรื่องสติสัมปชัญญะ สติสัมปชัญญะทางโลกกับทางธรรมนั้นแตกต่างกันมากนะเจ้าคะ ทางโลกนั้นอาจจะถือว่ามีสติรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ เช่น กำลังกิน เดิน ทำงาน อ่านหนังสือ แต่สติทางธรรมนั้น ละเอียดลึกซึ้งยิ่งกว่า เพราะในความรู้สึกตัวนั้น ต้องไม่ส่งจิตออกนอก ต้องไม่สยบอยู่ข้างใน และถึงที่สุดคือ ต้องไม่มีตัวเราหรืออวิชชาแอบซ่อนอยู่ด้วย เหมือนกับว่า สติ = รู้ กราบขอหลวงตาโปรดเมตตาช่วยชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ หลวงตา : สติ สัมปชัญญะ ในทางโลกนั้น แค่ไม่หลงส่งจิตออกนอก คือ วิญญาณของเธอไม่ซ่านออกไปสยบติดสิ่งใดภายนอก วิญญาณของเธอไม่สยบติดสิ่งใดภายใน ก็สามารถรู้เรื่องที่เล่าเรียน เขียนอ่าน ทำกิจการงานต่าง ๆ ได้แล้ว แต่ถ้าแค่นี้ ก็จะยังประสบทุกข์อยู่ เพราะยังไม่สิ้นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน หลงยึดมั่นถือมั่นขันธ์ห้า ซึ่งเป็นสังขารปรุงแต่ง ว่าเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของเรา และ เอาความหลงยึดถือว่าเป็นเรา หรือ ตัวเรานั้นไปหลงยึดถือ อย่างอื่น ๆ อีก ดังนั้น ต้องสติ สัมปชัญญะ หรือ สติ ปัญญา สิ้นหลงยึดมั่นถือมั่นขันธ์ห้าซึ่งเป็นสังขารด้วย จึงจะพ้นทุกข์ ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2562