ผู้ถาม : ขออนุญาตส่ง การบ้านเจ้าค่ะ
เช้านี้ทำความเพียร พอเริ่มเดิน ก็เห็นน้ำเลือดท่วมข้อเท้า นองเต็มทั้งห้องเลยเจ้าค่ะ โยมก็เดินลุยน้ำเลือดไปมา พร้อมกับเหยียบย่ำกองศพและกองกระดูกที่เห็นๆ มาหลายวันแล้ว เดินย่ำไปมา ลุยน้ำเลือดไปมา สักพักก็เห็นเนื้อตัวเองค่อยๆ ร่อนหลุดออกมาจากโครงกระดูก ตกลงบนพื้นทีละส่วนจนเหลือแต่โครงกระดูก โยมก็ต้องมโนนิดนึงว่า ที่มุมห้องมุมหนึ่งมี ท่อน้ำทิ้งอยู่ แล้วน้ำเลือดที่ไหลท่วมสูงขึ้นๆๆ จนเกือบท่วมตัวเอง ก็ค่อยๆ ไหลลงท่อน้ำไปจนแห้งเหือด เหลือคราบเลือดแห้งกรังบนพื้นห้อง
แล้วโครงกระดูกตัวเองที่กำลังเดินก็ร่วงผล็อยลงบนพื้นลงไป กองเป็นชิ้นๆ ท่ามกลางกองซากศพที่เกลื่อนกลาดเต็มห้อง และกองกระดูกที่มีปรากฏระเกะระกะไปทั่วห้อง โยมก็เอาไฟเผาบ้าง โยนระเบิดใส่บ้าง (เพราะกองกระดูก และซากศพมันเยอะ) ก็เผาจนเหลือเป็นขี้เถ้า ทั้งโครงกระดูกของตัวเองที่ร่วงลงไปรวมด้วยเจ้าค่ะ พอเผาหมด น้ำเลือดก็กลับมาเจิ่งนองใหม่ ไหลท่วมข้อเท้าโยม สูงขึ้นมาเรื่อยๆ โดยมีซากศพและกองกระดูกลอยอยู่ในน้ำเลือดนั้น แล้วเนื้อของโยมก็จะไหลหลุดร่วงลงไปรวมกับน้ำเลือด ก็จะเป็นแบบนี้ เหมือนกระบวนการเกิดแล้ววนให้เราดูซ้ำๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ เจ้าค่ะ
ขณะเห็นจนเผาเหลือขี้เถ้า โยมก็จะนึกในใจสำทับลงไปด้วยว่า ดินกลับคืนสู่ดิน น้ำกลับคืนสู่น้ำ ลมกลับคืนสู่ลม ไฟกลับคืนสู่ไฟ อย่างนี้ ทำวนไปเรื่อยๆ เจ้าค่ะ เห็นขบวนการทั้งหมดนี้ ซ้ำๆ ซากๆ ก็ให้นึกปลงอนิจจังไปเรื่อยๆ ว่าไม่มีอะไรเลยเป็นของเรา มีแต่ ดิน น้ำ ลม ไฟ จริงๆ น้อ
ขอส่งการบ้านตามนี้เจ้าค่ะ กราบนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ รู้แจ้งประจักษ์แก่ใจตนเองซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าๆๆๆ จะทำให้ขมวดธรรมได้ลงถึงใจตามความเป็นจริง ในเรื่องการพิจารณากาย ความตาย กลับคืนธรรมชาติ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ไม่เหลือตัวตนเป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของเรา ไม่มีอะไรเป็นของเราแท้จริง
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563