ผู้ถาม : กราบเท้านมัสการองค์หลวงตาเหนือเกล้าค่ะ ศิษย์ขอโอกาสส่งการบ้านค่ะ
ความเข้าใจมันเหมือนรูป (อนูของดิน น้ำ ที่ลอยมาอยู่รวมกัน และก็มีอนูที่แยกออกไป และอนูใหม่ที่รวมเข้ามาเติม) นาม (ความคิดปรุงแต่งที่เกิดขึ้นและดับไป) และตัวเรา (เหมือนเป็นวิญญาณซ้อนกาย)
ตอนที่ขันธ์ คือรูปนามตาย มันจึงเหลือวิญญาณหลุดออกไป ตัววิญญาณก็เป็นสิ่งที่เกิดดับพร้อมสิ่งที่ถูกรู้ แต่มันหลงว่ามันเป็นผู้รู้ มันจึงวกกลับไปยึดสิ่งที่ถูกรู้ ไม่ว่าจะเป็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร ว่าเป็นมัน เป็นของมัน ตอนที่มันวกกลับไปยึดก็เกิดเป็นปฏิจจสมุปบาทสายเกิด เกิดดับต่อกันเป็นสาย เป็นเรื่องเป็นราว
สำหรับปฏิจจสมุปบาทสายดับคือ “การรู้เท่าทัน” วิญญาณ/ตัวเรา/อวิชชา ที่วกกลับเข้าไปยึดหรือพยายามกระทำหรือพยายามไม่กระทำอะไร
การเพียร การปฏิบัติ ก็คือ การฝึกรู้ให้รู้เฉยๆ เหมือนถนนวันเวย์ ที่ไม่มีการวกกลับใช่มั๊ยคะหลวงตา
พิมพ์มาถึงตรงนี้ก็เห็นตัวเราจะฝึกให้รู้เฉยๆ ก็แค่รู้ว่ามีตัวเราจะฝึกให้รู้เฉยๆ ใช่มั๊ยคะ
มันเหมือนมี 2 สิ่งที่อยู่ด้วยกัน แต่มันแยกกัน คือ รู้กับสิ่งที่ถูกรู้ค่ะ
กราบแทบเท้าองค์หลวงตาเหนือเกล้า ขอองค์หลวงตาเมตตาสั่งสอน ชี้แนะศิษย์ด้วยนะคะ
หลวงตา : สักแต่ว่ารู้
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2563