ผู้ถาม : ฟังไฟล์เสียงทั้งสามที่หลวงตาเมตตาส่งมาให้หลายรอบคะ และพิจารณาการบ้านที่ส่งไปแต่ละครั้ง
เห็นสังขารเกิดดับ ความรู้สึก การพยายาม ความอยากพ้นทุกข์ ความปรารถนา ความรอรับผล ความคิดปรุงแต่งตัวกู เป็นคลื่นพลังงาน เป็นสังขารเกิดดับ ธรรมชาติที่สงบแห่งสังขาร แล้วต้องพิจารณาอะไรอีก เพราะหลวงตาส่งไฟล์เสียงมา
หลังจากฟังแล้วเห็นความยึดที่เนียนความอยากได้ใจบริสุทธิ์ หลงพยายามรักษาไว้ เหมือนกลัวมีความสกปรกใส่เสี้อสีขาว เลยมีตัวกู เข้าไปจัดการ มีส่วนได้เสีย ความจริง ไม่มีมาแต่แรก ไม่ต้องรักษาความบริสุทธิ์ และ ไม่มีตัวตนที่รอรับผลอะไร
ทุกสิ่งเป็นเพียงคลื่นกระแส ความปรุงแต่งจากความไม่มี แล้วดับกลับคืนสู่ความไม่มีอะไร ไม่มีตัวใจ ไม่มีกู ไม่มีอวิชชา
น้อมกราบหลวงตาที่เมตตา ขณะพิมพ์ถึงตรงนี้ เสียงของหลวงตาที่เคยบอก “ต้องใช้ปัญญาของเจ้าตัว” ขึ้นมาเลยคะ
สรุป ถ้าตั้งสมมุติฐานผิดก็เหมือนติดกระดุมผิดเม็ด เส้นทางก็วกวนไม่ตรง
สติปัญญาในเบื้องแรกเกิดจากความคิด (จินตปัญญา) แค่เดินให้ถูกทางแต่สติปัญญาที่เป็นอัตโนมัติ (วิชชา) ถึงจะดับอวิชชาได้ (ต้องไม่เกิดจากความคิด)
(หลวงตาพยายามอธิบายเหมือนจ้บปูใส่กระด้ง บอกอย่างทำอย่าง) หลวงตาเมตตาให้ฟัง ให้อ่านธรรม เพื่อเกิดวิชชาที่ทันดับอวิชชา ถ้าไม่รวบรวมธรรมที่ออกจากใจไว้ในจิต ก็ไม่ทันอวิชชา
ขออนุโมทนาสาธุกับลูกศิษย์ของหลวงตาทุกท่านค่ะที่ธรรมแท้ของพระพุทธเจ้าผ่านองค์หลวงตาไหลสู่ใจลูกศิษย์หลายๆท่านรู้สึก อิ่มเอิบเกิดปิติกับท่านค่ะ
ลูกจะเพียรโยนิโสน้อมเข้าสู่ใจว่าตัวเราไม่มีมาตั้งแต่แรก อย่าหลงว่าความคิดความรู้สึกเป็นตัวเรา ในทุกครั้งที่รู้ตัวลูกจะเพียรน้อมเข้ามาค่ะ
กราบขอบพระคุณในเมตตาของหลวงตาค่ะที่รู้ว่าศิษย์แต่ละคนติดตรงไหนคอยแซะคอยแงะให้อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ลูกละอายใจแต่จิตมันก็ดื้อจริงๆ ค่ะแต่ลูกก็จะไม่ทิ้งมรรคสายนี้แล้วค่ะ
หลวงตา : “ไม่มีตัวเรามาตั้งแต่แรก”
ไม่ใช่โยนิโสมนสิการว่าตัวเราไม่มี
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2563