ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ
เปรียบเหมือนการตั้งสมการนะเจ้าคะหลวงตา ถ้าจุดเริ่มต้นผิด ก็ผิดทั้งสาย ถ้าจุดเริ่มต้นถูกก็ถูกทั้งสาย
แต่อันนี้ต่างกันตรงที่ ไม่มีจุดเริ่มต้น เพราะมันเข้าใจผิดมานานว่ามีจุดเริ่มต้น เลยเริ่มหาแนวทาง วิธีการ เพื่อให้ไปถึงปลายทาง แก้สมการให้เป็น 0 พอย้ำๆ บ่อยๆ ว่าไม่มีตั้งแต่จุดเริ่มต้น ทุกสิ่งที่กระทำอยู่ก็เลยไร้ความหมายไปเลย เหลือแต่การทำหน้าที่ อยู่ๆ ไปเพื่อรอวันจบการแสดง
ก่อนหน้านี้เคยสงสัยว่า ทำไมเข้าใจแล้ว แต่ก็ยังวนไปวนมาอยู่อีก วันนี้ชัดเจนแบบนี้ วันหน้าก็ลืมอีก ตอนนี้ได้คำตอบว่า เป็นเพราะความเข้าใจผิดมันฝังมานาน เหมือนกับว่าจริงๆ แล้วเราเป็นไก่ แต่เข้าใจผิดนึกว่าเป็นเป็ด พอมีคนบอกว่าเราเป็นไก่ ก็จำได้อยู่แป๊บนึง
แล้วด้วยความเคยชินก็ทำตัวเป็นเป็ดเหมือนเดิมอีก พอมีคนเตือนอีกทีก็นึกได้อีกที ซึ่งคนเตือนก็คือมีสติระลึกได้เอง หรือมีครูบาอาจารย์ชี้แนะให้นั่นเอง
มันก็เลยวนไปวนมาแบบนี้อยู่เรื่อยๆ จนวันนึงมันถึงใจจริงๆ ก็ไม่เข้าใจผิดอีกเลยเจ้าค่ะ
มันยังมีความปรารถนาที่แอบแฝงเนียนๆ อยู่เจ้าค่ะ
หลวงตา : ความหวัง ความปรารถนา อยากนิพพาน ก็เป็นเพียงสังขาร เป็นคลื่นพลังงานปรุงแต่งขึ้นมาจากความไม่มีอะไร แล้วกับกลับคืนสู่ความไม่มีอะไร
มันไม่มีตัวเรา ไม่มีจิตของเรามาแต่แรก จึงไม่มีตัวเรานิพพาน หรือ ตัวเรายังไม่นิพพาน ตัวเราจะต้องพยายามให้ถึงนิพพาน
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563