ผู้ถาม : กราบนมัสการท่านพระอาจารย์ค่ะ
พอดีได้ไปอ่านเกี่ยวกับ อวิชชาที่ซ่อนเร้นในตัวเรา ที่ทางแอดมินส่งมาใน line เช้านี้ เป็นบทสนทนาธรรมของท่านกับลูกศิษย์วันที่ 5/10/62 ค่ะ
สรุป ท่านพระอาจารย์พูดไว้ว่า ตัวต้นจิต คือ สติ (ที่ต่อยคู่ชกมี่ขึ้นมาบนเวทีทุกตัว) แต่ สติ นี้ ก็คือ "ตัวเรา" นั่นเอง... ถูกต้องใช่ไหมคะ
หลวงตา : ยึดสติ ปัญญา เป็นตัวเรา
ถ้าไม่ยึดสติ ปัญญาเป็นตัวเรา
สติ ก็เป็นสังขาร ปัญญาก็เป็นสังขาร ที่เป็นประโยชน์ให้หายโง่ แต่กลับโง่ไปยึดสติ ปัญญาเป็นตัวเรา
ผู้ถาม : เพราะฉะนั้น พบต้นจิต จิตต้นพ้นโหยหวล ที่ท่านพระอาจารย์มั่นบอกไว้ ที่แท้ก็คือ สติ นี่เองนะคะ
อันนี้ใช่อวิชชาตัวใหญ่ไหมคะ หรือว่าอวิชชาที่ติดมาข้ามภพชาติเป็นอีกอันหนึ่งคะ
ส่วนนี้ โยมเข้าใจแจ้งแล้วค่ะว่า อวิชชาในปัจจุบันขณะ ที่สร้างตัวตนเราออกมารับการปรุงแต่ง
แต่โยมสงสัยตรงอวิชชาที่ข้ามภพชาติ มาเกิดเป็นตัวเราชาตินี้เนี่ย... มันมาเพราะการยึดในอดีตชาติแล้ว มาก่อเป็นตัวเราชาตินี้
คำถามโยมคือ ไอ้อวิชชาตัวนี้เนี่ย มันยังอยู่ป่าวคะ ในปัจจุบัน
หลวงตา : “อวิชชา” มันเกิดดับเป็นขณะจิตที่ยึดเป็นตัวเรา ของเราในปัจจุบันขณะ ซึ่งอวิชชา จิต ตัวเรา ของเรา เกิดขึ้นมาพร้อมกันจากความไม่มี มีแล้วก็ดับกลับคืนสู่ความไม่มี แล้วเกิดใหม่ ดับใหม่ เรื่อยมาตั้งแต่แรก
ผู้ถาม : เข้าใจแล้วว่า อวิชชามันเกิดๆ ดับๆ มาตลอด แสดงว่าที่โยมสงสัยว่า มันติดมาข้ามภพนั้น มันก็ดับไปตั้งแต่เกิดภพของชาตินี้ ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหมคะ
หลวงตา : ภพชาติมันเกิดดับในใจเป็นขณะจิต กายเป็นคน จิตคิดปรุงแต่งเป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรก เทวดา มนุษย์
ผู้ถาม : กราบขอบพระคุณค่ะ
แสดงว่า การเกิดอวิชชามันก็เหมือนการเกิดดับของสังขาร คือมีอยู่เรื่อยๆๆ ตามเหตุปัจจัย
หลวงตา : สาธุ
ผู้ถาม : มีคำถามอะไรที่ท่านพระอาจารย์ตอบไม่ได้
คงไม่มี
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563