ผู้ถาม : น้อมกราบขอโอกาสส่งการบ้านเจ้าค่ะ
ตอนนี้มันเหมือน "รู้ในรู้" หนูก็ไม่รู้ว่าคำนี้มาจากไหนเจ้าค่ะ คือเมื่อกี้ หนูได้คุยกันในเรื่องของวิญญาณ ซึ่งความหมายของวิญญาณก็มีในหลายแง่ แต่ทุกอย่างมันเหมือนไหลผ่านปากไป ผ่านปากไป
แต่มีสิ่งนึงที่ทำให้เข้าใจขึ้นมา คือ พูดออกมาว่าเห็น สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ ชัดเจนเลย แต่อยู่ๆ ปากหนูก็พูดไปว่า ไม่มี มันไม่มี คือ พอธรรมแท้เนื้อแท้ที่มันได้แค่รู้ มันไม่มีอะไรอื่นอีก
คือ มันรู้แล้วก็แค่รู้ ไม่มีอะไร
มันไม่มีแม้กระทั่งคำพูดว่า "ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น" มันไม่มีเลยเจ้าค่ะ เพราะมันไม่เคยยึด ไม่เคยต้องมาพูดถึงเรื่องยึด หรืออย่ายึด มันไม่เคยต้องมีประเด็นเรื่องยึดขึ้นมาพูดเลย
ก็มันไม่มีเจ้าค่ะ มันหมดคำพูด
มันไม่มีเลย เหมือนแถบขาว (ที่ไม่มีแถบปรากฏ) ในอากู๋กูเกิลที่องค์หลวงตาพูดให้ฟัง เหมือนไม่มีคำพูดว่าต้องเกิดอีกไหม คือ มันไม่มีไปเลยเจ้าค่ะ
แต่เมื่อมันมีปรากฏขึ้นมา มันมีมาทั้งโขยงเลย ทั้งหมดทั้งมวลก็พร้อมที่จะปรากฏขึ้น ตามเหตุปัจจัย แต่เนื้อแท้มันไม่มี มันไม่มีทั้งหมดจนหมดคำพูดเลยเจ้าค่ะ แต่พอมี ก็โอ้โห ทุกสิ่งสุดๆ มีพร้อมอยู่ในนั้นที่จะให้ปรากฏเจ้าค่ะ
ตอนนี้พูดแล้วแปลกๆ เจ้าค่ะ เหมือนค่อยๆ รู้จักตัวเองที่ไม่ใช่คนที่มันเคยรู้จัก พูดออกมาแบบงงๆ แต่มันเป็นแบบนั้นเจ้าค่ะ
ขอน้อมกราบแทบเท้าองค์หลวงตา พระผู้มาโปรดเหล่าดวงจิตให้หายโง่เจ้าค่ะ
น้อมกราบ กราบ กราบ เจ้าค่ะ
หลวงตา : เราถึงบอกว่าพออวิชชาดับไปมันหายโง่ ไอ้ความเป็นตัวตนก็ดับพร้อมเลยไอ้วิญญาณน่ะ ไอ้วิญญาณที่ว่ายึดวิญญาณเป็นตัวตนมันก็ดับพร้อมเลย งั้นพออวิชชาดับวิญญาณก็ดับ มันไม่ใช่ว่าอวิชชาตัวหนึ่งวิญญาณตัวหนึ่ง
คือมันปรุงขึ้นมาเมื่อไหร่ก็โง่พร้อมเบ็ดเสร็จนั่นแหละ ปรุงผีตัวเราเป็นตัวขึ้นมาเมื่อไหร่ หรือ ปรุงผีเป็นตัวตนเมื่อไหร่คืออันเนี้ยน่ะคือพร้อมเลยพร้อมกับความโง่มาเลย อยู่ดีๆ ก็ปรุงมาให้กลัว ปรุงผีตัวเราขึ้นมาเฉยๆ จากไม่มีแล้วปรุงให้มีดังนั้นผีมันไม่มีที่ตั้งหรอก
ดังนั้นเนี่ยไอ้จิตที่บริสุทธิ์มันไม่มี จะไปเอาจิตที่บริสุทธิ์อีก ก็กลายเป็นว่าอย่างงี้มันก็มีจิตน่ะซิ ใช่มั้ย เนี่ยจะไปเอาจิตบริสุทธิ์มันก็กลายเป็นมีจิตน่ะซิ ถ้ามีจิตนะ จิตก็มีที่ตั้งตอนเนี้ย มันก็เหมือนกับ อ้าว แล้วอย่างเนี้ยจิตบริสุทธิ์ไปตั้งที่ไหน จิตหรือวิญญาณที่บริสุทธิ์ไปตั้งที่ไหนตอนนี้ มีที่ตั้งมั้ย ไม่มีหรอก อยู่ที่ไหน
อยู่ที่ความโง่ อยู่ที่อวิชชา จากไม่มีก็มีจิตบริสุทธิ์ขึ้นมา แล้วก็กูเนี่ยจะเอาจิตบริสุทธิ์ กูจะเอาจิตบริสุทธิ์ นั่นแหละมันก็คือโง่พร้อม มันก็มีจิต แล้วก็มีกู มีอวิชชามันจะพร้อมกันเลย
ผู้ถาม : เจ้าค่ะ จิตไม่มี ไม่มีจิต
ไม่มีจิต ไม่มีอวิชชา
ไม่มีอวิชชา ไม่มีจิต
ไม่มีทั้งจิต ไม่มีทั้งอวิชชา
เปลวเทียนจึงดับไปอย่างเปลวไฟที่สิ้นเชื้อ
น้อมกราบ กราบ กราบ เจ้าค่ะ
ไม่มี ก็ไม่มีหมดเลย
มีก็มีทั้งหมดเลย
ปีติเจ้าค่ะ
น้อมกราบพระธรรม "สัจธรรม" ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
กราบ กราบ กราบ เจ้าค่ะ
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563