ผู้ถาม : วันนี้ตอนฟังธรรมหลวงตา มันคิดอยู่ คือทั้งคิดตามและคิดปรุง เหมือนกับมีสติเกิดขึ้น ทำให้รู้ว่าใจมันไม่ได้ฟังธรรมนี่นา มันคิดอยู่
คิดว่าฟังธรรมอยู่ แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ได้ฟังเจ้าค่ะ มันปรุงไปแล้วเจ้าค่ะ รู้ไม่ใช่คิดจริงๆ เจ้าค่ะหลวงตา
หลวงตาเจ้าคะ มันเร็วมากและสลับกันไป เดี๋ยวหลงเดี๋ยวรู้ ก็อยู่กับรู้ว่าหลงใช่ไหมเจ้าคะ นี่เองใช่ไหมเจ้าคะที่หลวงตาบอกว่าหนูหวือหวา ไม่สม่ำเสมอ
หลวงตา : ขณะที่ใจสงบ จึงพบ “สัจธรรม” ความจริงแท้ว่าทุกปัจจุบันขณะ ธรรมชาติมีแต่สังขารเกิดดับในความไม่มีอะไรเกิดดับ (วิสังขาร)
เพียงแค่รู้เห็นจากใจว่า กู มึง ก็เป็นเพียงสังขารของคลื่นพลังงาน เกิดดับในความไม่มีอะไรเกิดดับ (วิสังขาร) เกิดเอง ดับเอง... เกิดเอง ดับเอง...
ไม่มีตัวกูที่เป็นตัวตนจริง
จึงรู้แจ้งแก่ใจว่า “ตัวกู” ไม่มี
จึงไม่ต้องเอาตัวกูออกไป
ส่วน "ใจ" เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอะไรเกิดดับเป็นพื้นเดิมอยู่แล้ว เป็นเหมือนความว่างในธรรมชาติที่ไม่มีขอบเขต ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวเรา
เมื่อพบใจ ถึงใจที่ไม่มีตัวจิต ตัวใจ ไม่มีตัวเรา ทุกปัจจุบันขณะ จึงมีแต่อาการของขันธ์ห้าเกิดดับในใจที่ไม่ปรากฏอะไร
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2563