ผู้ถาม : หลวงตาเจ้าขา อวิชชาเป็นคลื่นพลังงาน wave ที่ปรุงเป็นตัวเราขึ้นมาทุกขณะจิต
เมื่อเห็นอวิชชาคือปรุงขึ้นมาเป็นตัวเราเมื่อไร ให้วาง คือ แค่รู้ว่ามีความเป็นเราขึ้นมา ให้ปล่อยวางทุกขณะจิต กัดติดจดจ่อตรงนี้เลยใช่ไหมเจ้าคะ
หลวงตา : ไม่ใช่ รู้เห็นจากใจจริง ๆ ว่า... ทุกปัจจุบันขณะในใจมีแต่ธรรมชาติของสังขาร แม้แต่ความคิด ความรู้สึกเป็นเรา ตัวเรา ของเรา ก็เป็นสังขาร ที่เป็นคลื่นพลังงาน wave vibration เกิดเอง ดับเอง... เกิดเอง ดับเอง..... ตลอดเวลา ไม่มีตัวตน ตัวเรา ของเราจริง ๆ
ผู้ถาม : เข้าใจอย่างลึ้กชึ้งเลยค่ะ ปล่อยความคิดพิจารณาวน ปล่อยตัวจับดูสังขาร เพราะผู้รู้จริงไม่ได้อยู่ในสังขารเลย ปล่อยผู้รู้ ปล่อยผู้รู้… ผู้รู้ ปล่อยให้หมด ไม่มีตัวยึดไม่มีใครดู รู้ เป็น
แต่ให้ปล่อยเอง ให้อ๋อเอง ไม่ทำ ไม่บังคับ เมื่อนั้นคือเมื่อนั้น ไม่มีอะไร จบ จบหมด
แต่มันยังมีตัวตน เห็นมัน รู้มันทันบ้างไม่ทันบ้างค่ะ แต่เห็นและประสบกระบวนการและการแยกของรูปนาม กาย จิต ผู้รู้ธรรมชาติ แต่แล้วตัวกูก็กลับมาพร้อมความคิด... ปล่อยมัน ฟังหลวงตาทุกวันให้เข้าถึงจิตแท้ ให้จบเองค่ะ
หากผิดเมตตาแนะนำด้วยนะคะองค์หลวงตา
*****หลวงตา : ระยะนี้ ต้องติดตามเป็นแฟนพันธุ์แท้ให้ทันปัจจุบันธรรม ไม่ให้คาดสายตาเป็นอันขาด ทั้งการอ่าน การฟัง การน้อมนำมาเปรียบกับความรู้ความเข้าใจในการพิจารณาตนเอง
มิฉะนั้น จะตกธรรมจักรที่กำลังหมุนเร็วมากในตอนนี้ หรือ ที่เรียกว่าตกรถไฟ
ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563