ผู้ถาม : หลวงตา เข้าใจแล้วค่ะ สังขารใด ๆ ที่มีอยู่ แท้จริงแล้วมันไม่มีความรู้สึกว่า "ไม่มี" แท้จริงมันมีอยู่ คือ มันเป็นสังขารอยู่ ใช่ไหมคะ
หลง "ความไม่มี" ก็คือ หลงสังขาร
หลง "จิต" ก็คือ หลงสังขาร
หลง "ใจ" ก็คือ หลงสังขาร
หลวงตา : คำว่า "มี ... ไม่มี" นั้น หมายถึง สังขารที่มีหรือที่ปรากฏขึ้นมาทั้งหมด ไม่มีตัวตนคงที่ เป็นความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่อาจยึดมั่นถือมั่นได้ จึงไม่ใช่เรา ตัวเรา หรือ ของเรา ส่วนภาพหลวงตาถือหนังสือ "จบซะที" เพื่อให้เห็นว่า ภาพหน้าปกหนังสือมีตัวตนของผู้เดินทาง กำลังเดินทางไปหานิพพานที่หมายหรือปักธงไว้ คือ แสงสว่างข้างหน้า เพื่อให้พ้นจากทุกข์ คือ วงจรปฏิจจสมุปบาทสีดำ
สำหรับ คำว่า "ไม่มี ... มี" หมายถึง ไม่มีผู้ยึดมั่นถือมั่น ก็มีธรรมที่มั่นคง ส่วนปกหลังหนังสือ "จบซะที" เป็นภาพปกหนังสือถูกตัดขาดเป็นวงกลมที่ว่างเปล่า คือ สิ้นความหลงยึดถือว่ามีเรา ตัวเรา หรือตัวตนของเราอยู่จริง (อวิชชาดับไป) เพราะเห็นว่าขันธ์ห้าเป็นเพียงสังขาร มีความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ทำให้ไม่มีตัวตนของผู้เดินทางไปหาเป้าหมาย คือ ความอยาก ความปรารถนา (ตัณหา) ความสุขหรือนิพพาน ดังนั้น ความอยาก ความปรารถนา และ เป้าหมายที่จะเดินทางไปจึงดับไป หรือเป็นเพราะความอยาก ความปรารถนาความสุขหรือนิพพาน ดับไป ทำให้สิ้นตัวตนของผู้เดินทาง
สรุป !!! แล้วคือสิ้นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน เลยว่างเปล่า ว่างเปล่า ... จริงๆ แต่ถ้ายังมีความหลงยึดถือ ดิ้นรนค้นหา ... หรือ พยายามที่จะทำอะไร ... เพื่อให้ถึง ให้ได้ ให้เป็นอะไร ก็ยังมีอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ... ภพ ชาติ ชรามรณะ ทุกข์
ดังนั้น จึงต้องปล่อยวาง ... หยุดดิ้นรนค้นหา ... หยุดพยายามทำอะไร ... เพื่อให้ถึง ให้ได้ ให้เป็นอะไร ก็จะสิ้นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ... และทุกข์ โดยถาวรสิ้นเชิง (นิพพาน)
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560