ผู้ถาม : 555 เมื่อวานมันไปอยู่ในความคิด เรื่องติดต่อไปเรียนต่างประเทศ คุยกับ professor โน่นนั่นนี่ ทุกอย่างในความคิดเป็นจริงเป็นจัง มีตัวเราจริงๆ ไม่ได้เห็นว่ามันเป็นของหลอกแล้วมันเดือดร้อน เพราะไม่อยากเข้าไปอินไม่อยากเห็นโลกเป็นจริงเป็นจัง เพราะมันกลัวต้องโดนลากไปเกิด มันรู้ว่า 'อยู่ในความคิดเป็นทุกข์' แต่มันออกจากทุกข์ไม่ได้ ดิ้นรนมีกริยาอาการขลุกขลักๆ พยายามมองมันเป็นสังขาร พยายามคิดให้เห็นทุกข์เห็นโทษ มันพยายามแม้กระทั่งทำสมถะ ไปอยู่กับลมหายใจ เพราะคิดว่าสมถะอ่อน ปรุงเยอะ เลยไม่มีกำลังพอที่จะเห็นความจริงออกจากมัน สุดท้าย พยายามทุกอย่างแล้ว ทำไม่ได้แล้ว เหนื่อยแล้ว ก็นอนไปละกัน พอ พอ ไม่ออกก็ไม่ออก ตื่นเช้ามามันก็พิจารณาเห็นได้เอง ว่ามันมีตัวเรา เราพยายามเอาตัวเราออกจากความคิด เหมือนกับพยายามเอาตัวเราแยกออกจากกิเลส ยังงั้ย ยังไง ไม่มีทางทำได้ เพราะในความเป็นจริงมันชอบอยู่ด้วยกัน ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ ก็ปล่อยมันไปอยู่ด้วยกันละกัน มึงจะพากันไปเกิดที่ไหนก็ไปเลย ไม่เกี่ยวกับกูแล้ว กูจะดูพวกมึงไปเกิดอยู่ตรงนี้ .... ตามสบายเลย 555 อย่างนี้ละ ปล่อยจริง ว่าง หมดกังวล จริงๆ ตรงนี้มันเป็น 1 ใน ญาณ 16 ก่อนการตรัสรู้ ใช่ไหมหลวงตา เห็นสังขารเป็นทุกข์ เป็นโทษ มีความดิ้นรนจะหาหนทาง หนีออกจากความทุกข์นั้น ท้ายที่สุด เมื่อไม่สามารถออกจากทุกข์ได้ ใจจึงยอมรับความทุกข์อย่างแท้จริง
หลวงตา : ☺☺☺ ความเฉลียวใจขึ้นมาในปัจจุบันขณะ เพราะมีความรู้แจ้งที่ใจขึ้นว่า หลงมีเรา ตัวเรา หรือตัวตนของเรา เข้าไปมีส่วนได้เสีย เสียแล้วในขณะนั้น และถอนความหลงในขณะนั้นเสียได้ จึงเรียกว่าเป็น "ญาณ" ??? ความรู้ที่ถอนตัวตน ถอนความยึดถือไม่ได้ ไม่เรียกว่าเป็น “ญาณ”
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2560