ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ ตั้งแต่ที่ไปกราบหลวงตาที่แดรี่ฮัทรอบที่แล้ว หลวงตาให้พิจารณาถึงอนัตตา ว่าไม่มีตัวตนของเรา ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย จิต หรือใจ ทุกสิ่งเป็นเพียงธาตุตามธรรมชาติ ให้พิจารณาปล่อยวางไปเรื่อย ๆ เมื่อมาที่สถานธรรมลัดดารมย์ หนูก็ติดปัญหาเรื่องการซับอารมณ์แช่ของคนอื่นมา ทำให้ฟังธรรมไม่รู้เรื่อง และพยายามดิ้นรนหาทางออกเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากสภาวะนั้น หลวงตาเมตตาบอกว่าหนูยังมีความพยายามที่จะใช้ปัญญาเพื่อช่วยให้ตัวเองหลุดพ้นอยู่ นั่นหมายความว่าหนูโง่โดนอวิชชาหลอกอีกแล้ว ในเมื่อไม่มีตัวตนของเรา แล้วจะมีใครมามีอาการอะไรได้ เมื่อไม่มีใครมีอาการอะไร ก็ไม่มีใครต้องทำอะไรเพื่อให้หลุดจากสภาวะอะไรเลย ที่ผ่านมาหนูพยายามคิดวนไปวนมา ดิ้นรนหาทางออกเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นออกจากวัฏสงสารตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการฟังเสียงไฟล์ทุกเสียง พยายามทำความเข้าใจ ค้นหาว่าตัวเองยึดอะไรอยู่ ทำยังไงถึงจะวางได้ จะปฏิบัติอย่างไร พิจารณาอะไรดี โดยไม่รู้เลยว่านั่นแหละคือสิ่งที่หลวงตาเมตตาบอกว่าหนูพยายามใช้ปัญญาเพื่อช่วยตัวเองอยู่
เมื่อวานนี้ขณะที่นั่งดูฟิล์มคนไข้และถือปากกาอยู่ในมือ อยู่ดี ๆปากกาที่หลุดลงไปเหมือนมือไม่มีแรงถือเฉย ๆ หนูรู้สึกอึ้งไปชั่วขณะ และเข้าใจคำว่า รู้ และปล่อยวางขึ้นมาทันที ว่าคือการรู้สึกได้แต่ไม่ยึดถือสภาวะใด ๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกดี ชั่ว รัก โกรธ หลง ฯลฯ ไม่ยึดร่างกาย, ความรู้สึกของตัวเองและของคนอื่น ๆ ตอนนี้หนูเข้าใจแล้วว่าที่หนูเคยส่งการบ้านหลวงตา และบอกว่าจริง ๆ แล้วไม่มีใครต้องทำอะไรเลย ทุกอย่างเป็นเพียงแค่การทำงานของสังขาร มันไม่มีตัวตน ไม่มีอยู่จริง หนูรู้แล้วค่ะว่าจะดำเนินชีวิตที่เหลืออย่างไร หนูขอกราบขอบพระคุณหลวงตาเป็นที่สุดอย่างสูง หลวงตาเหน็ดเหนื่อยตรากตรำเพื่อให้ลูกศิษย์ทุกคนพ้นทุกข์ บุญใด ๆ ที่หนูได้กระทำทางกาย วาจา ใจ ในทุกภพทุกชาติ และที่จะทำต่อ ๆ ไป ขอถวายเป็นอาจริยบูชา ถวายพระพุทธศาสนา ขอให้ธาตุขันธ์ของหลวงตาสมบูรณ์ แข็งแรงตลอดไปเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ สาธุ
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560