ผู้ถาม : ทำไมขณะเวลานอนหลับจิตเป็นสภาวธรรมเกิดดับวางเองทั้งหมด แต่พอตื่นใหม่ ๆ ก็เริ่มมีอารมณ์ปรุงแต่งเกิดขึ้นเล็กน้อย แล้วก็เพิ่มมากขึ้น ส่วนจิตที่เห็นสภาวธรรมเกิดดับวางก็ยังมีพร้อมกัน แต่ไม่เต็มที่เหมือนตอนหลับ เหมือนถอยหลังออกไปแล้วให้ความคิดปรุงอารมณ์มาอยู่หน้าแทนคะ
หลวงตา : ขณะกายหลับ จิตปรุงแต่งในขันธ์ห้าเกิดเอง ดับเอง โดยไม่มีเจตนาคิดปรุงแต่ง และความรู้ก็รู้จิตนั้นขึ้นมาเอง โดยไม่มีการปรุงแต่งรู้ ก็จะไม่มีผู้เสวยหรือผู้ยึดถือ ก็จะไม่มีกิเลสและความทุกข์ในขณะนั้น
กรณีนี้จะเหมือนกับนอนไม่หลับ เพราะมีความตื่นรู้อยู่กับจิตปัจจุบันอย่างเป็นธรรมชาติ แต่แท้จริงร่างกายหลับอยู่ แต่ถ้าเป็นความฝัน จะเป็นการหลับและหลงคิดปรุงแต่ง ขณะตื่นนอนเป็นการหลงคิดหลงปรุงแต่ง และหลงปรุงแต่งรู้
ต้องฝึกให้กายตื่นอยู่และมีความรู้เหมือนตอนกายหลับ คือมีแต่จิตหรือธรรมารมณ์ที่เกิดเองดับเอง โดยไม่มีเจตนาคิดปรุงแต่ง และรู้จิตหรือธรรมารมณ์นั้นเองตามธรรมชาติ เหมือนกับการเห็นรูป หรือ การได้ยินเสียง ถ้าจะตั้งใจคิดอะไรต้องตั้งใจคิดด้วยความรู้ตัว ไม่หลงจมไปกับเรื่องที่คิด
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2560