ผู้ถาม : หลวงตาคะ เหมือนรอบนี้บทเรียนที่ได้จากการหลงวนกลับไปหนีอาการเวทนาที่เกิดขึ้นทางกาย จนยอมยินดีจะเอาตัวเองไปแช่นิ่งเฉย เพื่อหนีทุกข์เหมือนเดิม ๆ อีกตามอนุสัยเก่า ๆ แต่พี่ท่านหนึ่งมาอธิบายถึงการภาวนาที่หนูทำ มันมีเหตุมาจากการที่หนูคิดว่าการลงมือภาวนาจริงไปแล้วโดยไม่กลับมาทบทวนโยนิโสกำกับใจตัวเองให้เข้าใจ มีสัมมาทิฏฐิที่ตรงเสมอ แต่รอบนี้ทบทวนความเห็นได้ไวขึ้นว่า หนูพยายามมองตัวเองว่าอาการเจ็บปวดมีเวทนามันเป็นอาการหนึ่งที่เกิดจากธาตุขันธ์มันผุดขึ้นมาเองเหมือนความคิด พอเกิดอาการอะไรขึ้นมาทีหลังก็เริ่มไปพยายามจะรู้ จะมองให้เวทนามันเป็นธาตุขันธ์ ลืมไปว่าจริง ๆ มันเป็นการพยายามไปทำอะไรที่มันมากเกินไป ที่จริงมันไม่ต้องทำอะไรมากกว่ารู้เฉย ๆ เท่านั้น พอจะเห็นจุดที่พลาดในการภาวนาจริง ๆ บ้างแล้วค่ะ ว่าถึงจะมีความเข้าใจแค่ไหน เมื่อพิจารณาเองจริง ๆ ในปัจจุบันขณะนั้น ต้องอาศัยทั้งสติปัญญาและกัดติดปัญญาที่หลวงตาพยายามสอนตลอดจริง ๆ กราบเท้าหลวงตาที่พยายามชี้แนวทางกับลูกศิษย์มาตลอดค่ะ ต่อไปจะเพียรกัดติดและพิจารณาละความยึดต่อไปค่ะ
หลวงตา : สาธุ
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560