ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาครับ ผมฟังเรื่อง “พิจารณาให้เห็นความจริง” ที่หลวงตาส่งมาแล้วครับ ผมกำลังคิดว่าผมสมควรจะเปลี่ยนไปพิจารณากายบ้างหรือเปล่าครับ หรือว่าพิจารณาจิตต่อไปครับ
หลวงตา : เห็นกายละเอียดเท่าใด ก็จะเห็นจิตละเอียดได้เพียงนั้น
ถ้าฝึกดูจิต หรือ เห็นจิตอย่างเดียว ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ไม่เห็นจิตผู้รู้อารมณ์ แต่หลงเอาตัวเราซึ่งเป็นขันธ์ห้าไปรู้อารมณ์ (อารมณ์ คือ สิ่งที่ถูกรู้ อาการที่ถูกรู้ สภาวธรรมที่ถูกรู้) แล้วติดอารมณ์ที่ถูกรู้ เช่น พึงพอใจติดใจยินดีกับอารมณ์ หรือ ความรู้สึกที่ว่าง โล่ง โปร่ง เบา สบาย
ต้องเห็นว่าหลงเอาตัวเราทั้งตัวไปรู้อารมณ์ จึงพิจารณาตัวเราผู้รู้อารมณ์ ว่า เป็นขันธ์ห้า ประกอบด้วยธาตุตามธรรมชาติ ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ และ ธาตุรู้ มาผสมกัน ตกอยู่ในไตรลักษณ์ คือ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา ตัวเรา หรือของเรา จึงจะสิ้นหลงเอาตัวเราไปเป็นผู้รู้
ธาตุรู้จึงเป็นธาตุบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ เพราะไม่มีตัวตนของผู้หลงยึดถือไปขี้ตู่เอาธาตุรู้ตามธรรมชาติมาเป็นเรา ตัวเรา หรือ ของเรา มีแต่ธาตุรู้ตามธรรมชาติ ไม่ได้เป็นของเรา
อีกอย่างหนึ่ง ผู้ปฏิบัติธรรมจำนวนมาก จะหลงเอาตัวเรา ซึ่งเป็นขันธ์ห้า ไปพยายามไล่ดับความคิด หรือ อารมณ์ เพื่อให้จิตใจนิ่งเฉย สงบ ว่าง
โดยไม่ใช่เห็นจิตผู้รู้ แล้วไม่หลงยึดถือถือจิตผู้รู้ว่าเป็นเรา ตัวเรา หรือ ของเรา
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561