ผู้ถาม : คืนก่อนฝันถึงแม่ชี......ท่านเคยถามเราว่า ลงให้ใคร ก็ให้ไปอยู่กับครูบาอาจารย์องค์นั้น
เหตุการณ์เมื่อสองปีที่แล้ว ทำให้เรารำลึกถึงท่านแม่ชี......ท่านเล่าว่า " ท่านเก็บกะเป๋าจะไม่อยู่กับครูบาอาจารย์ท่านหลายครั้ง แต่ทุกครั้งอาจารย์ท่านจะพูดดักคอในตอนเช้าเสมอว่า จะไปไหน
เลยเข้าใจว่าทุกคนคงมีสภาพไม่ต่างอะไรกับเรา ณ เวลานี้ ถูกขับเคี่ยว จนไม่มีที่ให้ไป ถ้าไม่ได้หลวงตาณรงค์ศักดิ์เยียวยา หยิบยื่นข้อธรรมที่เด็ดขาดกินใจ และเราได้นำมาพิจารณาทำความเพียรตลอดอาทิตย์นี้
ไม่ว่าจะเดินจงกรม นั่งสมาธิ ถามตอบพิจารณาไปมาจึงลงกันได้ที่ใจ จบที่ใจเพราะมันไม่เคยมีอะไรตั้งแต่แรก
ไม่มีใครมีความสำคัญต่อใจเรา แม้ใจเราเองก็ยังไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ ตกสู่ไตรลักษณ์ตามเหตุและปัจจัย ไม่มีอะไรที่เป็นของเราเลย จะมาเอาอะไร
กับคำพูดที่คอยงัดแงะแกะกิเลสและอัตตาตน ความเสมอในคนย่อมไม่มี สูงกว่าหรือด้อยค่ากว่าก็ไม่มี สมดั่งคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ทรงตรัสสอนไว้ทุกประการ จึงลงแก่ใจได้เพราะถ้าใครสอนต่างไปกว่านี้
ก็สักแต่ได้ยินได้ฟังเถิด หาควรใส่ใจเอามาย้อมใจตนไม่
ประเด็นจึงตกไป
การพิจารณาธรรมขั้นต่อไป คือพิจารณาว่าท่านต้องการสิ่งใด หาคำตอบได้คือกระแทกอัตตาตนที่มีเรา
ปฐพีที่หนักแน่นกว้างขวาง ใครจะด่า ใครจะชม ใครจะทิ้งปฏิกูลหรือของหอม แผ่นดินไม่เคยว่าไม่เคยรังเกียจไม่เคยพอใจหรือโกรธเคือง แต่อย่างใดรับได้ทุกสถานการณ์โดยไม่ปริปากหรือมีอาการใดๆ เพราะทุกสรรพสิ่งก็เป็นเช่นนั้นเอง
สาธุ . .เพราะไม่เคยมีเราตั้งแต่แรกนั้นเองเป็นดั่งปรากฏการณ์ธรรมชาติฟ้าผ่าแล้วก็หายไปไม่ทิ้งร่องรอย อัตตาคือจิตปรุงยิบๆแย้บๆ
" สนามรบแห่งนี้จึงลงกันได้ "
แต่ก็ยังร้อนระอุดั่งเช่นเคย หากแต่ไม่มีผู้ยึด ผู้เสวย สมดั่งคำหลวงตาทุกคำทุกภาพที่ได้ติดตาม น้อมกราบสุดเศียรเกล้า...
หลวงตา : ขอจงเพียรพิจารณาให้สิ้นตัวตนในปัจจุบันเสียเถิด จะได้ไม่มีตัวเราทุกข์ทั้งในปัจจุบัน อนาคต และในชาติต่อๆ ไปอีก
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2561