ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาค่ะ ช่วงนี้กัดติดจดจ่อระหว่าง จิตกับใจ พยายามดูลักษณะของมันว่าตัวจิตกับใจมันใช่ตัวเดียวกันไหม ดูการทำงานของมันว่าทำงานอย่างไร จิตคือทำหน้าที่รู้ รู้ทุกอย่างทางอายตนะทั้ง 6 ตา หู จมูก ลิ้น กาย ไม่มีปัญหา เข้าใจ แต่พอมาที่ใจปุ๊บเริ่มสะดุดว่า จิตกับใจใช่ตัวเดียวกันไหม คราวนี้เริ่มมาเน้นดูที่จิต กับ ใจ มากขึ้น เริ่มเห็นอารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มันเกิดที่ใจแล้วก็มีจิตไปรู้อารมณ์ต่าง ๆ ถ้ามีการปรุงต่อก็เป็นสังขาร .. .เริ่มดูไปเรื่อย ๆ เริ่มเข้าใจมากขึ้น เห็นว่าใจเหมือนภาชนะเปล่า ๆ ที่จับต้องไม่ได้ เดี๋ยวก็มีอารมณ์ นึกคิดขึ้นมาในภาชนะนี้ แล้วพอเห็นมันก็ดับไป ดับไป ดับไปเรื่อย ๆ จนมันรู้สึกว่าสิ่งปรุงแต่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาในใจมันไม่ใช่เราเลย มันเป็นเหมือนสิ่งแปลกปลอมที่มันเข้ามาแล้วก็ไป ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ใจก็ไม่ได้เป็นสิ่งแปลกปลอมที่ผ่านมา ใจก็แค่เป็นที่ ๆ มันมาให้อารมณ์ต่าง ๆ เข้ามาตั้งอยู่แล้วก็ผ่านไป พอเราเข้าใจแบบนี้มันก็เบาเลยค่ะ ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาในใจเป็นของปรุงแต่งทั้งหมดมันไม่ใช่เราเลย และเราก็ไม่ยึดมันเพราะรู้แล้วว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นเองตามกระบวนการธรรมชาติ และมันก็ไม่มีเราในนั้น ไม่มีเราก็ไม่ยึด เมื่อไม่ยึดก็สลัดคืนโลกไป .... พอมาเช้านี้หลวงตาส่งไฟล์ ปล่อยวางสังขารถึงจะพบใจนี้ใช่เลยค่ะ … ไม่ทราบว่าที่หนูดูอยู่แบบนี้ใช่ไหมเจ้าคะ กราบขอบพระคุณหลวงตาเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ สาธุ ธรรมชาติเขาเป็นเช่นนั้นเอง
(สังขาร) เกิดเอง ดับเอง ....เกิดเอง ดับเอง ..ใน “ใจ” ที่ไม่เคยปรากฏอะไรเลย (วิสังขาร)
ไม่มีใครเป็นเจ้าของสังขาร และ
ไม่มีใครเป็นเจ้าของใจที่ไม่สังขาร
สิ้นผู้ยึดถือเอามาเป็นเจ้าของ ก็ไม่มีผู้ทุกข์
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2561