ผู้ถาม : กราบนมัสการองค์หลวงตาที่เคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 หนูเริ่มฟัง cd ขององค์หลวงตาและเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม Line โดยหนูติดตามความเคลื่อนไหวทางธรรมจากองค์หลวงตามาตลอด และนำความรู้ความเข้าใจที่ได้รับไปฝึกปฏิบัติในชีวิตประจำวันจนถึงปัจจุบัน หนูขอกราบรายงานผลการปฏิบัติของหนูดังต่อไปนี้เจ้าค่ะ
1. หนูยึดคำสอนของพระพุทธองค์ที่ตรัสสอนไว้และคำสอนขององค์หลวงตาเป็นเครื่องอยู่ในใจหนูคือ "ตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน" และ "รู้ซื่อซื่อ" จะนำคำสอนนี้มาแก้ปัญหาเมื่อเกิดข้อสงสัยขึ้นมาในใจเสมอเจ้าค่ะ
2. ในชีวิตประจำวันเมื่อขันธ์ 5 รับรู้จากสิ่งกระทบภายนอกก็จะให้ขันธ์ 5 เขาสังขารไปตามเหตุตามปัจจัยนั้น บนพื้นฐานความถูกต้องและเป็นธรรมแล้วก็ "วาง" แล้วอยู่กับความรู้สึกตัวต่อไป บางครั้งความรู้สึกตัวเอาไม่อยู่ หนูก็จะท่องพุทโธไปจนได้สติกลับมาได้ แล้วก็ดูความรู้สึกตัวต่อไป
3. บางครั้งมีสิ่งมากระทบจากภายนอกหลายด้านก็ปล่อยให้ขันธ์ 5 เขาสังขารไปตามเหตุตามปัจจัยนั้น ๆ บางครั้งก็หลงไปกับเขามากบ้างน้อยบ้าง เมื่อได้สติก็จะนำคำ 2 คำตามข้อ 1 มากระตุกสติตัวเอง เมื่อบรรลุจุดประสงค์แล้วก็ "วาง" แล้วมาอยู่กับความรู้สึกตัวต่อไป
4. เมื่อวางแล้วหนูก็จะอยู่กับความรู้สึกตัวผนวกตื่นรู้อยู่กับปัจจุบันและรู้ซื่อซื่อไป ปล่อยให้ขันธ์ 5 เขาสังขารไปเรื่อย ๆ ตามธรรมชาติเจ้าค่ะ .. ข้อความใดที่ไม่เหมาะไม่ควร หนูกราบขอขมาองค์หลวงตามา ณ ที่นี้เจ้าค่ะ จึงกราบเรียนองค์หลวงตาเพื่อขอคำชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ
หลวงตา : เมื่อไม่มีอุปาทานต่ออารมณ์หรือสิ่งที่ถูกรู้ในทุกปัจจุบันขณะแล้ว ก็ให้ปล่อยวางผู้รู้สึกตัวนั้นเสียด้วย โดยให้สังเกตเห็นผู้รู้สึกตัวที่รักษาไว้นั้นว่าเป็นสังขาร หรือ สิ่งปรุงแต่ง เขาก็คิดตรึกตรอง ปรุงแต่งเสียเองด้วย เมื่อรู้เห็นว่าผู้รู้สึกตัว คิดปรุงแต่งด้วย ก็เพียงแค่สักแต่ว่ารู้เขา โดยไม่มีผู้หลงยึดถือเขา ก็จะไม่มีอุปาทานกับความรู้สึกตัวด้วย
สรุปแล้ว ไม่มีอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ต่อ อารมณ์หรือสิ่งที่ถูกรู้ และไม่มีอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ต่อผู้รู้ หรือ ผู้รู้สึกตัวด้วย
หรือ รู้ทุกอย่างทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจตามปกติธรรมชาติ แต่ไม่มีผู้ยึดติด ยึดถือสักอย่างเดียว ก็ไม่มีผู้ทุกข์ (นิพพาน)
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561