ผู้ถาม : กราบนมัสการค่ะหลวงตา สติคือทองแท้ไช่ไหมคะ สติคือแสงสว่างแห่งชีวิต
หลวงตา : สติ สมาธิ ปัญญา จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันที่ใจ คอยสังเกต เรียนรู้ ศึกษา ทำความเข้าใจ ว่า มี ความรู้สึก นึก คิด ตรึก ตรอง ปรุงแต่ง แสดงอาการ หรืออารมณ์ต่าง ๆ เรียกว่า “สังขาร หรือ ธรรมปลอม” เกิดหรือปรากฏขึ้นมาจากความไม่มีอะไร แล้วดับกลับคืนไปสู่ความไม่มีอะไร
ความไม่มีอะไรเกิดดับได้เลยนี้ เรียกว่า “วิสังขาร หรือใจ หรือ ธรรมแท้” จะเป็นที่เกิดดับของสังขารทุกขณะจิตปัจจุบัน
ถ้าสังเกตให้ดี ๆ จะเห็นว่าสังขารจะแสดงอาการเกิดดับเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ส่วนวิสังขารและใจจะไม่เกิดไม่ดับไม่อาจแสดงอาการใด ๆ ได้เลย
“สังขาร” เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือสิ่งที่ไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วก็เสื่อมไป ดับไป ไม่ใช่เรา ตัวเรา หรือของเรา
เมื่อยังไม่ชำนาญ ก็จะดูไม่ขาด หรือ อ่านไม่ขาด ว่า แต่ละขณะจิตปัจจุบัน อะไรเป็น “สังขาร” ซึ่งเป็นธรรมปลอม
อะไรเป็น “วิสังขาร” ซึ่งเป็นธรรมแท้
ก็จะหลงไปอยู่กับธรรมปลอม
เปรียบ เหมือนคนที่ดูทองคำแท้กับทองคำปลอม
หรือเพชรแท้กับเพชรปลอม
หรือพระเครื่องแท้ กับ พระเครื่องปลอมไม่ขาด ก็จะถูกหลอกมีคนเอาของปลอมมาขาย แล้วหลงซื้อหรือหลงใช้แต่ของปลอม
แต่เมื่อดูขาดแล้วว่า อะไรเป็น “สังขาร” หรือ ธรรมปลอม ที่เกิดดับ และ อะไรเป็น “วิสังขาร” หรือ “ธรรมแท้ “ ที่ไม่เกิดไม่ดับตลอดกาล ก็จะไม่หลงไปอยู่กับสังขาร แต่จะอยู่กับธรรมแท้ตลอดเวลา
ถึงตอนนี้ สติ สมาธิ ปัญญา ที่ใช้สังเกต เรียนรู้ ศึกษา ทำความเข้าใจ จดจำได้จนถึงใจ ว่าอะไรเป็นธรรมปลอม อะไรเป็นธรรมแท้ ก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะไม่หลงไปใช้ของปลอม แต่เป็นของแท้หรือธรรมแท้ที่ใจตลอดกาลอย่างเป็นอมตะนิรันดร์กาล
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2561