ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาคะ หนูได้มีเวลาปลีกวิเวกไปภาวนามา 10 วัน เห็นความจริงของธรรมชาติของ กายใจนี้ว่ามันไม่ใช่เราเลย เห็นกาย เวทนา ใจ แยกกันว่านี้ไม่เรา กายเห็นเป็นเปลือกๆ ท่อนๆ พอนั่งไปเห็นเวทนาก็เห็นว่าเวทนาก็เป็นแค่เวทนา ไม่ใช่เรา เราเข้าไปเห็นคุณลักษณะของเวทนา มันก็เป็นเหมือนสักแต่ว่า...ในนั้นไม่มีเราเลย
เราคอยมีสติสัมปชัญญะ รู้ตัวในการทำอิริยาบถต่างๆ เห็นไปเรื่อยๆ เห็นจิตทำงานไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จิตคอยทำงานรู้ไปเรื่อยๆ ตามหน้าที่ของมันในการรู้ แต่พอเรามีสติ จะมีจิตผู้รู้อีกตัวที่ไปรู้การทำงานของจิตหรือวิญญาณ เห็นจนจิตเข้าใจแล้วว่าการทำงานของกายกับใจ นั้นมันเป็นธรรมชาติของมัน เราเป็นแค่ผู้ดู ดูอย่างเป็นกลางไม่ยินดีหรือยินร้ายเพราะมันเกิดการกระทบแล้วจิตก็พอใจ ไม่พอใจ มันก็ทำงานของมันเอง ตอนนี้หนูเข้าใจและรู้ว่าเราเดินอยู่บนทางเดินที่จะเดินไปตามกระแสแล้ว ถ้าเรามั่นใจไม่ลดความเพียรก็จะสามารถถึงจุดหมายได้ หนูมั่นใจว่าเราเดินมาถูกทางแล้วค่ะ จะออกจากขันธ์ 5 นี้ได้ไม่มีทางอื่นนอกจากจะเข้ามาดูกายกับใจนี้เท่านั้นค่ะ ขอบคุณหลวงตามากๆ เลยค่ะที่เมตตาสั่งสอนให้ได้เข้าใจธรรมชาติของกาย ใจ นี้ค่ะ....หลวงตามีอะไรแนะนำหนูเพิ่มเติมไหมคะ
หลวงตา : พบผู้รู้ ปล่อยวางผู้รู้
ผู้ถาม : ปล่อยผู้รู้นี้แหละค่ะ ยากมากเลยค่ะ
หลวงตา : รู้อยู่ แต่ไม่หลงยึดถือว่า เราเป็นผู้รู้ หรือผู้รู้เป็นตัวเรา
ผู้ถาม : อ่อค่ะ...เข้าใจแล้วค่ะ....ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561