ผู้ถาม : กราบนมัสการครับหลวงตา เรื่องที่ส่งมานี้ผมคิดเองเออเองนะครับไม่รู้ว่าถูกไหมครับ ขอโอกาสหลวงตาพิจารณาครับ
ธรรมชาติ มีธรรมอยู่ 2 ชนิดคือ ธรรมปรุงแต่ง กับธรรมไร้การปรุงแต่ง
ธรรมปรุงแต่ง เกิดจากการรวมตัวของธาตุต่างๆ ซึ่งมี 6 ธาตุ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ ..ธรรมปรุงแต่งมีหลายชนิด พอแบ่งแยกได้ 2 ชนิด คือ สิ่งมีชีวิต กับสิ่งไม่มีชีวิต ขึ้นอยู่กับกฎแห่งกรรม โดยสิ่งใดที่มีวิญญาณธาตุไปปฏิสนธิกับธาตุต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่มีชีวิต ก็ไปเกิดตามภพภูมิต่างๆ ตามกรรมของวิญญาณธาตุนั้น ส่วนสิ่งไม่มีชีวิต ก็จะปราศจากวิญญาณธาตุ ก็จะมีการรวมตัวของทุกๆ ธาตุ เป็นน้ำบ้าง ดินบ้าง หินบ้าง ต้นไม้บ้าง และอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อรวมตัวกันแล้วก็เกิดขึ้นมา เมื่อถึงเวลาก็แตกสลายกลับคืนสู่ธรรมชาติอันว่างเปล่ากลายเป็น ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ ตามเดิม ซึ่งธาตุต่างๆ เหล่านี้เป็น "ธรรมชาติฝ่ายไม่ปรุงแต่ง"
สรุป ธรรมชาติทั้ง 2 ชนิดอยู่ร่วมกัน เป็นอิสระต่อกัน แต่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เป็นไปตามกฎแห่งกรรมและกฎไตรลักษณ์ กราบสาธุครับ
หลวงตา : ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ มีการเปลี่ยนแปลง เป็นของใช้สิ้นเปลือง จึงต้องมีการกินซากพืช ซากสัตว์ ซึ่งเป็นธาตุดิน กินธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ธาตุอากาศ ซึ่งมีก๊าซออกซิเจน เติมเข้าไปอยู่เสมอ เหมือนกับรถที่ต้องเติมน้ำมัน เพราะเป็นของใช้สิ้นเปลือง
ส่วนจิตหรือวิญญาณธาตุที่ยังมี “อวิชชา” อยู่ ยังมีตัวตน เกิดดับ ครั้นเมื่อ ธาตุแตก ขันธ์ดับ ก็เปลี่ยนรูปไปตามร่างที่เกิดใหม่
ยกเว้น วิญญาณธาตุ หรือ ธาตุรู้ ที่สิ้นอวิชชา แล้ว จะเป็นธรรมธาตุ หรือ ใจ หรือ จิตเดิมแท้ ซึ่ง ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่ตาย ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป เพราะไม่มีตัวตน ไม่มีรูปพรรณสัณฐานใด ไม่อาจคิดหรือปรุงแต่งได้ เป็นวิสังขาร หรือ อสังขตธาตุ อสังขตธรรม อมตธาตุ อมตธรรม รวมเข้ากับจักรวาลเดิม ไม่มีการเปลี่ยนรูปไปตามร่างที่เกิดใหม่อีกต่อไป เรียกว่า “นิพพาน”
จิตคือพุทธะ
https://www.youtube.com/watch?v=ENslxqWJd1s&feature=youtu.be
“จิต คือ พุทธะ” นี้
ท่อนแรก เป็นคำสอนของ ฮวงโป
ซึ่งหลวงปู่ดูลย์ อตุโล พ่อแม่ครูอาจารย์ที่เคารพนับถือ ท่านเห็นว่าเป็นคำพูดที่แสดงถึงความอันเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ที่เรียบเรียงออกมาจากใจได้ดีมาก
ท่านจึงเอามาพูดต่อ
ทำให้เกิดประโยชน์อย่างมาก เพราะเท่ากับ หลวงปู่ท่านได้รับรองคำพูดของฮวงโปอีกชั้นหนึ่ง
จึงนำมาศึกษาเป็นแนวทางได้สนิทใจยิ่งขึ้น
ส่วนท่อนท้ายๆ ที่เกี่ยวกับวิญญาณและจักรวาลเดิม เป็นส่วนเพิ่มเติมของหลวงปู่เอง ซึ่งลึกซึ้งอย่างที่สุด ยากที่จะมีผู้ใดเสมอเหมือน
“จิต คือ พุทธะ” ไม่ใช่จิตปรุงแต่ง หรือ วิญญาณธาตุ ที่ยังมี “อวิชชา” ผสมอยู่
แต่หมายถึง ใจ หรือ จิตเดิมแท้ หรือ ธรรมธาตุ หรือ ธาตุรู้ที่สิ้น "อวิชชา”
รวมเข้ากับจักรวาลเดิมแล้ว
ดังนั้น พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์
แม้ธาตุขันธ์ยังไม่แตกดับ
ก็ไม่มีจิตปรุงแต่งยึดถือเป็นตัวตนอีกแล้ว
ปุจฉาวิสัชนาธรรมเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2561