หลวงตา : ให้เห็นว่า “จิตผู้รู้” ไม่ว่าจะนิ่ง สงบ ว่าง มีความสุข อิ่มเอิบเพียงใด ก็เป็นเพียงสังขาร หรือ ปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ ไม่หลงยึดถือจิตผู้รู้นั้น เป็นเรา เป็นตัวเรา หรือ ***เป็นของเรา*** มิฉะนั้น จะเป็น อวิชชา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ … และทุกข์ เมื่อมีอวิชชา ก็จะเป็นปัจจัย ให้เกิดสังขารกรรม คือ การคิด การพูด การกระทำ ในแต่ละขณะ จะมีตัวเราเป็นผู้บงการ ก่อให้เกิด วิญญาณกรรม คือ เกิดวิญญาณที่จะต้องได้รับผลกรรมให้เป็นภพ ชาติ และ ความทุกข์จากการคิด การพูด การกระทำในแต่ละขณะจิต และถ้าขณะจิตใดยังไม่สิ้นอวิชชาเสียที ก็จะส่งผลต่อเนื่องต่อไปจนถึงชาติต่อ ๆ ไป ผู้ถาม : กราบขอบพระคุณอย่างสูงเจ้าค่ะ มันเห็นขึ้นมาว่า ..... จริง ๆ เลยเจ้าค่ะ มันหลงยึดถือให้ค่าจิตผู้รู้ที่นิ่ง สงบ ว่างนั้น เพราะมันมีค่ามีความหมายแก่ใจว่า … แบบนี้ดี เจ้าค่ะ จากที่ผ่านมาถ้าสิ่งใดไม่ยึด ไม่ข้อง ไม่เกาะ ไม่เกี่ยว สิ่งนั้นมันไม่มีความหมายเจ้าค่ะ กราบ กราบ กราบ เจ้าค่ะ ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561