โยม : น้อมกราบนมัสการองค์หลวงตา พ่อแม่ครูอาจารย์ที่เคารพสูงสุด
ม้างกายพาให้เห็นอสุภะไม่งาม ความไม่เที่ยงของกาย อาการ 32 และมรณานุสติ กายดับสลาย
เริ่มพิจารณาที่เส้นผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น เลือด กระดูก
ถอนเส้นผมออกทีละเส้นเห็นตุ่มไขมัน ขี้รังแค กลิ่นเหม็น มีเลือดติด โยนลงดิน
ถอนขน ถอดเล็บโยนลงดิน
ถอนฟันมีเลือดแดงออกมาด้วยโยนลงดิน
ตัดกายออกเป็น 6 ส่วนเหมือนตุ๊กตา คือ
ตัดตรงรอยต่อกระดูกใต้ลำคอ
ตัดตรงรอยต่อโคนแขนทั้ง 2 ข้าง
ตัดตรงรอยต่อโคนขาทั้ง 2 ข้าง
เหลือลำตัวอยู่ตรงกลาง
ลอกหนังออกจากทั้ง 6 ส่วนนั้น โยนหนังลงดิน
แล่เนื้อ เอ็น ออกจากทั้ง 6 ส่วนโยนเนื้อลงดิน
หยิบสมอง ลูกตา หัวใจ ม้าม ตับ ปอด ไต กระเพาะ ไส้เล็ก ไส้ใหญ่ อาหารใหม่ อาหารเก่า โยนลงดิน
ส่วนที่เป็นธาตุน้ำเช่นเลือด น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำตา น้ำปัสสาวะ น้ำดี น้ำไขมันข้น น้ำเหงื่อ น้ำย่อย รวมลงถังเดียวกัน เหลือโครงกระดูกวางแยกไว้ต่างหาก จุดไฟเผากระดูกทั้งหมด วันรุ่งขึ้นนำไปลอยน้ำแล้วจมลง
ธาตุดินกลับคืนสู่ดิน ธาตุน้ำกลับคืนสู่น้ำ ธาตุลมกลับคืนสู่ลม ธาตุไฟกลับคืนสู่ไฟ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ตอนเกิดก็ไม่มีตัวตนมีแต่ธาตุรู้ที่ห่อหุ้มด้วยอวิชชาพามาเกิด เมื่อธาตุรู้ออกจากร่างกายไป ร่างกายแตกดับสลายเน่าเปื่อยผุพังคืนสู่ธรรมชาติทั้งหมด ไม่มีตัวตนอยู่ตรงส่วนไหนเลย น้ำตาไหล ไหล ไหล แล้วกระดูกและทุกส่วนกลับมาต่อ ๆ กันเป็นร่างกายอย่างเดิมอีก
กราบ กราบ กราบขอบพระคุณ และขอคำชี้แนะเจ้าค่ะ
ศิษย์เห็นกายแยกออกจากใจที่ไม่ปรุงแต่งหรือธาตุรู้ ที่นิ่งเป็นใบ้ ไม่มีตัวตน ไม่ใช่เรา แยกจากกันได้ชัดเจนมาก ๆ
น้อมกราบ กราบ กราบเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ
ให้มีศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ขันติ พิจารณาให้เห็นความจริงในร่างกายและจิตใจตนเองอย่างนั้นนั่นแหละ อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
เมื่อพิจารณาสัจธรรม ตามความเป็นจริงในร่างกายและจิตใจตนเองอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ก็จะรู้สึกถึงความเป็นจริงของร่างกายจิตใจตนว่า ถึงจะรัก จะหวง จะห่วง จะยึดถือ จะพยายามหาของดี ๆ มาบำเรอ จะพยายามรักษาให้ดีเพียงใด ก็เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ เป็นปกติตามธรรมชาติที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ทนอยู่สภาพคงที่ตามเดิมไม่ได้ เป็นอนัตตา คือ ไม่ใช่เป็นอัตตาตัวตนคงที่ เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของของเรา มันไม่อยู่ในบังคับของเรา
แม้จะไม่อยากแก่ เจ็บ ตาย พลัดพราก แต่ก็ต้องแก่ เจ็บ ตาย เน่าเปื่อยผุพัง กลับคืนสู่ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ (ความว่าง) ธาตุรู้ (ธาตุรู้ที่ไม่มีอวิชชา จะไม่มีตัวตนรูปลักษณ์หรือเครื่องหมายใด ๆ ไม่ปรากฏกิริยาหรืออาการปรุงแต่งเกิดดับ ไม่มีการไป ไม่มีการมา ไม่มีการหยุดนิ่งอยู่ที่จุดใด มันจึงเป็นเหมือนกับธาตุอากาศที่เป็นความว่าง แต่แตกต่างกันที่มันมีความรู้ โดยไม่มีตัวตน ไม่มีจุดหรือต่อมของผู้รู้)
เมื่อเห็นและรู้แจ้งสัจธรรมในอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาด้วยใจตนเองแล้ว อวิชชา คือ ความโง่ ที่หลงยึดถือในสิ่งที่ไม่อาจยึดถือได้มายาวนานก็ดับลง
สิ้นสงสัย ไม่ต้องถามใครอีกต่อไป ใจจะปล่อยวางความหลงยึดมั่นถือมั่นของเขาเองโดยไม่ต้องบีบบังคับให้ปล่อยวาง จะสิ้นหลงยึดถือทั้งในร่างกายและจิตใจของตนเองและผู้อื่น
เมื่อสิ้นหลงยึดถือ ก็สิ้นกิเลส ไม่มีผู้ทุกข์อีกต่อไป เรียกว่า “นิพพาน”
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากปุจฉาวิสัชนา
22 กุมภาพันธ์ 2563
~~~~~~~~~~~~~~~
หมายเหตุ : แนะนำโอวาทธรรมที่เกี่ยวข้องอ่านเพิ่มเติมเพื่อความถึงใจ
(เป็นโอวาทธรรมจากวีดีโอที่ใช้สำหรับเปิดในคอร์สที่องค์หลวงตาแสดงธรรมเท่านั้น)
พิจารณากาย (พิจารณาใจ) ตอนที่ 1
http://www.luangtanarongsak.org/home/index.php/2017-10-14-13-20-39/2017-10-14-13-21-12/2020-02-14-11-11-10/item/4954-02-feb24-63-hth-12
พิจารณากาย ตอนที่ 2
http://www.luangtanarongsak.org/home/index.php/2017-10-14-13-20-39/2017-10-14-13-21-12/2020-02-14-11-11-10/item/4955-02-feb24-63-hth-13
ความจริงของสิ่งไม่เที่ยง
http://www.luangtanarongsak.org/home/index.php/2017-10-14-13-20-39/2017-10-14-13-21-12/2020-02-14-11-11-10/item/4952-02-feb24-63-hth-10
เกิดเพื่อสิ้นสุดการเกิด
http://www.luangtanarongsak.org/home/index.php/2017-10-14-13-20-39/2017-10-14-13-21-12/2020-02-14-11-11-10/item/4953-02-feb24-63-hth-11
ฟังไฟล์เสียงเพิ่มเติมจากยูทูป (เพื่อความเข้าใจลึกซึ้งในภาคปฏิบัติ)
200208A-2 อานาปานสติ (สมถะ-วิปัสสนา)
https://youtu.be/hktlx3BmLPo
200210A2-1 อานาปานสติอันละเอียดลึกซึ้ง ตอนที่ 1
https://youtu.be/14YbLMYvbDI
200210A2-2 อานาปานสติอันละเอียดลึกซึ้ง ตอนที่ 2
https://youtu.be/YhVc0-1lEt0
191102A1-1 พิจารณากายรู้เท่าทันจิต ตอนที่ 1
https://youtu.be/ntHDemhdJQI
191102A1-2 พิจารณากายรู้เท่าทันจิต ตอนที่ 2
https://youtu.be/_FuyxmQlXUA
~~~~~~~~~~~~~~~